น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ในห้วงจังหวะที่ “นายกฯลุงตู่” ยังคุมเกมการเมืองในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ งบประมาณปี 2567 ได้เห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีนายกฯลุงตู่เป็นประธานไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยวงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณปี 2566 ถึง 1.65 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.18%
เมื่อลงลึกในรายละเอียดของงบประมาณปี 2567 จะเห็นว่าเป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุนมากถึง 20.6% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด ซึ่งฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ให้ความเห็นว่า การใช้จ่ายเงินของภาครัฐ กำลังปรับโหมด จากการใช้จ่ายเพื่อการเยียวยา Covid-19 มาสู่การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้นหรือเรียกได้ว่าลดงบประมาณรายจ่ายสำหรับการเยียวยาลงเรื่อยๆ สังเกตได้จากโครงการคนละครึ่งเฟส 7 ที่ ครม.ไม่ได้นำกลับมาใช้ใหม่ และ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่เข้า ครม.แล้วแต่ยังไม่ผ่านการพิจารณา
สำหรับแผนการลงทุนของภาครัฐว่ากันว่าเตรียมที่จะพิจารณา พร้อมดันเมกะโปรเจกต์ 9 โครงการ วงเงินรวม 5 แสนล้านบาท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการรถไฟไทย-จีน รถไฟทางคู่เฟส 2 ฯลฯ ซึ่งในมุมมองนักวิเคราะห์ มองว่า ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
และเมื่อมารวมกับสถานการณ์การท่องเที่ยวในปีนี้ที่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ หลังจากจีนเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยจำนวนที่คาดการณ์ว่าปีนี้ 2566 จะมามากถึง 5 ล้านคน ส่งผลให้ยอดรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีแตะ 25 ล้านคน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายออกมาปรับประมาณการตัวเลขจีดีพีปีนี้โตพุ่ง
สวนทางกับเศรษฐกิจโลกระยะยาวที่อาจเผชิญกับ ความเสี่ยง Recession มากขึ้น เพราะล่าสุด Word Bank ปรับลดคาดการณ์การเติบโตจีดีพีโลกปี 2566 ขยายตัวเพียง 1.7% YoY โดยเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปี
ในมุมมอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด “นายไพบูลย์ นลินทรางกูร” ที่ในอีกบทบาทหนึ่งนั้น เขาคือ นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน โดยนายไพบูลย์ กล่าวกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยนี้มีโอกาสที่จะแตะ 4% หรือมากกว่านั้นได้ เพราะได้แรงหนุนจาก การท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัว
และนี่ก็เป็นมุมมองการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณปี 2567 ในห้วงจังหวะที่เกมการเมืองร้อนฉ่า หลังจาก “นายกฯลุงตู่” เปิดตัวจริงจังอยู่กับ “รวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามนโยบายทางเศรษฐกิจจากฝากฝั่งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพราะทุกพลังการขับเคลื่อนย่อมส่ง ผลต่อคะแนนนิยม “นายกฯลุงตู่” นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
