fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“อัจฉริยะ” ร้องสอบตร.-ทหารขายข้อมูลประชาชน

 

 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือถึงพลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ดำเนินคดีกับดาบตำรวจ 2 นาย

 

สังกัดกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดราชบุรี และเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดกรมทหารสารวัตร สำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง หลังมีพฤติกรรมร่วมกับเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของครูเกษียณราชการ ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อนำไปขายให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ จนสูญเงินจาก 7 บัญชี รวมกว่า 3 ล้าน 7 แสนบาท

 

“สืบเนื่องจากว่ามีครอบครัวของผู้การ ปคบ. มาร้องว่า เนื่องจากว่าพี่สาวเป็นข้าราชการครู แล้วก็เกษียณอายุแล้วเนี่ย ถูกคอลเซนเตอร์ทำการหลอกลวงเงินในบัญชีไปได้มากกว่าสามล้านบาท จากนั้นเนี่ยเขาก็สงสัยว่าขบวนการคอลเซนเตอร์รู้ได้อย่างไรว่า เขามีรายละเอียดในเรื่องประวัติส่วนบุคคลครบถ้วน พบว่ามีตำรวจสองนายนะครับ

 

ซึ่งตำรวจสองนายนี้คนหนึ่งอยู่ที่บก.น.3 อีกคนอยู่ที่สืบสวนราชบุรีนะครับ พบว่าก่อนที่ขบวนการคอลเซนเตอร์จะมาหลอกลวง 2คนนี้ได้มีการกดข้อมูลทะเบียนราษฎร์ก่อน 20 นาที แล้วนำไปขายให้แก๊งคอลเซนเตอร์”

 

ดังนั้นผู้เสียหายจึงได้ไปร้องต่อต้นสังกัดของตำรวจทั้ง 2 นายให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยกรณีที่จังหวัดราชบุรี ดาบตำรวจอ้างว่ามีทหารอากาศเป็นผู้สั่งการให้เข้าถึงข้อมูลผู้เสียหาย และคณะกรรมการมีมติว่าเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และสั่งลงโทษกักขัง แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทราบว่า ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีทราบเรื่องและได้เร่งรัดให้กักขังดาบตำรวจตามบทลงโทษ รวมถึงเร่งรัดให้จับกุมทหารอากาศที่เป็นผู้สั่งการมาดำเนินคดี

 

ส่วนกรณีของกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เบื้องต้นดาบตำรวจให้การว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สั่งให้เข้าถึงข้อมูลวันละ 30 ชื่อ แต่ผลการสอบสวนไม่ทราบแน่ชัด เพราะไม่มีการรายงานผลกลับมายังผู้เสียหาย แต่มั่นใจว่าดาบตำรวจทั้ง 2 นาย รวมถึงผู้ที่สั่งการ จะต้องเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างแน่นอน เพราะเป็นการเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ผ่านระบบของตำรวจ และเหตุเกิดช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

 

นายอัจฉริยะ จึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร์ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , และ ความผิดตาม พ.ร.บ คอมพิวเตอร์

 

รวมถึงขยายผลตรวจสอบข้าราชการระดับสูงที่มีใบสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาลักลอบนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ไปขาย และตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด โดยเบื้องต้นทราบว่าเงินของผู้เสียหายถูกกดออกจากบัญชีธนาคารในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และบางส่วนโอนกลับมาที่ร้านวัสดุก่อสร้างในประเทศไทย แต่ก็ถูกกดเงินออกไปทั้งหมดแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube