นับจากวันที่ 9 มิถุนายน ถึงวันนี้ 9 กรกฏาคม ครบ 1 เดือนเต็ม ที่คณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ถอดพืชกัญชา-กัญชง พ้นจากบัญชีการเป็นยาเสพติดประเภท 5 และให้ทุกบ้านปลูกได้
ตามนโยบาย “กัญชาเสรี” ของพรรคภูมิใจไทย ที่หาเสียงไว้ตอนเลือกตั้ง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ไม่ได้สนับสนุนการเสพเพื่อสันทนาการ แต่ยังไม่มีกฏหมายที่จะมากำกับดูแลแบบ 100% และ “กัญชาเสรี” คือประเด็น
ถกเถียงในวงกว้างของสังคมไทย ว่ามีทั้งดี และร้าย การเสรีครั้งนี้ อาจได้ไม่คุ้มเสีย กระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์ ความเสรีกัญชา ได้สร้างผลกระทบทางสังคม สุขภาพของประชาชนไประดับหนึ่ง พรรคภูมิใจไทย ก็กลายเป็น
ตำบลกระสุนตก ถูกโจมตีอย่างหนักในทางการเมือง
กระทรวงสาธารณสุข ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้ากระทรวง ก็ได้ออกประกาศ ให้ “กัญชา” เป็นสมุนไพรควบคุม ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร เพื่อเป็นการควบคุม ลดกระแสต่อต้านวิพากษ์วิจารณ์ หลังโดนถล่มอย่างหนัก ในระหว่างรอมีกฏหมาย กัญชาฉบับสมบูรณ์ ที่สภากำลังพิจารณาอยู่ โดยมี “ศุภชัย ใจสมุทร” เป็นประธานคณะกรรมรธิการ จะมีผลใช้บังคับ
ท่ามกลางกระแสต่อต้าน กัญชาเสรี ในหลายพื้นที่ และเรียกร้องให้มีการควบคุม จัดระเบียบให้เข้มงวดมากที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว เพราะหลายประเทศออกคำเตือนพลเมืองของตนเอง ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ห้ามยุ่งเกี่ยวกับกัญชาอย่างเด็ดขาด และอาจถูกดำเนินคดี เมื่อเดินทางกลับประเทศ เพราะบ้านเขา “กัญชา”ยังเป็นยาเสพติด แต่ “อนุทิน” และทีมงานภูมิใจไทยยังคงมั่นใจว่า “กัญชา” จะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ได้ โดยมองว่า ตลาดกัญชา คือโอกาสทางเศรษฐกิจ เป็นโอกาสของเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการ
ส่วนความคืบหน้าของกฏหมายกัญชานั้น เริ่มมีข้อสรุปในหลายประเด็นเช่น ปลูกใช้ในครัวเรือน ไม่เกิน 10 ต้น ต้องมีการจดแจ้ง ส่วนปลูกเพื่อการพาณิชย์ หากไม่เกิน 5 ไร่ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ แต่ถ้าเกิน 5 ไร่ ต้องมีค่าทำเนียม ส่วนการขออนุญาติ ทุกประเภทจะมีอายุ 3 ปี เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ รวมถึงมีบทบัญญัติ เพื่อคุ้มครองประชาชน, ควบคุมวิธีการขาย, ป้องกันสถานที่, กำหนดข้อห้ามการใช้ช่อดอกกัญชาในทางที่ผิดด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กฏหมายกัญชา ที่อยู่ในการพิจารณาของสภา มีหลายสิ่งหลายอย่าง พยายามปิดช่องโหว่ ที่เกิดขึ้นในรอบ 1 เดือนของกัญชาเสรีอยู่พอสมควร รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอื่นในภายหลังด้วย
แต่ถึงกระนั้น “นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย” ก็ยังคงกังวลการผสมอาหาร เครื่องดื่ม และ ใช้เสพเพื่อสันทนาการ จะเกิดผลทางสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรืออาจพูดได้ว่า กัญชาเสรีอันตรายมากหากไม่มีการควบคุมที่ดีเพียงพอ ส่วนท้ายที่สุดแล้ว กฏหมายกัญชาเสรีจะมีการสอดไส้ เอื้อประโยชน์ให้ใคร หรือมีการสับขาหลอกกันอย่างไรอีกหรือไม่ คงต้องจับตากันเป็นพิเศษ เพราะกฏหมายฉบับนี้ ไม่เพียงแต่มีผลในเรื่องการเสรีกัญชาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลในด้านการเมืองเป็นอย่างยิ่งด้วยทำได้ดี “ภูมิใจไทย” ก็จะตีปี๊บ เคลมผลงานได้เต็มปาก ในการหาเสียงครั้งหน้า แต่หากมีอะไรผิดพลาด คู่แข่งก็พร้อมถล่ม นำไปขยายผลในสนามเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
