fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

บัญชีรายชื่อหาร 100 ใครได้…ใครเสีย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคพลังประชารัฐ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯต่ออีกสมัยเมื่อปี 62 มาจากระบบเลือกตั้ง บัตรใบเดียว

 

 

 

 

บัญชีรายชื่อมีกำหนด ส.ส.พึงมีจนทำให้เกิด ส.ส.ปัดเศษจำนวนมาก มีพรรคเล็กได้เข้าสภา และเป็นตัวแปรของการจับขั้วทางการเมือง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้า กติกาเปลี่ยนไปแล้ว รัฐธรรมนูญถูกแก้ไข เปลี่ยนจากใบเดียวนับคะแนนจัดสรรปันส่วนเป็น 2 ใบ คำนวณบัญชีรายชื่อใช้ 100 หาร โดยไม่กำหนด ส.ส.พึงมี

 

อาจส่งผลในทางตรงข้ามกับ ปี 62 ทันที กลุ่มพรรคเล็กที่มี “หมอระวี มาศฉมาดล” เป็นหัวหอกพยายามต่อสู้ในชั้นกรรมาธิการ ใช้ 500 หารยอมยกธงขาวไปแล้ว จะไม่ยื่นตีความอีกแล้ว หลังจากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องวินิจฉัยเรื่องบัตร 2 ใบ

 

ซึ่งหลังจากนี้ น่าสนใจว่า กระบวนการปรับเปลี่ยนกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย รวมถึงก้าวไกล เห็นตรงกันในสูตรบัญชีรายชื่อ แบบไม่มีใครแตกแถวเลยในชั้นกรรมาธิการ

 

จะเดินหน้าได้อย่างราบรื่นแค่ไหน ในวาระที่ 2 และ 3 เพราะ ในชั้นกรรมาธิการ ส.ว.เห็นต่างอย่างชัดเจน จะมีโอกาสพลิกอีกรอบหรือไม่ สภาเปิดสมัยประชุมแล้ว ในสัปดาห์นี้ คงอีกไม่นาน กรรมาธิการ ที่มี “สาธิต ปิตุเตชะ” เป็นประธาน ก็น่าจะส่งร่างกลับให้ประธาน”ชวน หลีกภัย”บรรจุเป็นวาระประชุมเพื่อพิจารณาในวาระ2 และ 3ต่อไปในเร็วๆนี้

 

แน่นอนว่า หากสภาผ่านความเห็นชอบกฏหมายลูก เลือกตั้ง ส.ส. แบบนี้ ใช้ 100 หาร ในการคำนวณบัญชีรายชื่อ และไม่มีกำหนด ส.ส.พึงมีโฉมหน้าทางการเมืองหลังเลือกตั้งครั้งหน้าจะเปลี่ยนไป มีโอกาสที่บรรดาพรรคเล็ก ส.ส.1 ที่นั่ง

 

ที่ได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์เฉลี่ยแบบครั้งก่อน 10 กว่าพรรคและเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล จะไม่มีอีกต่อไป ส่วนพรรคไหนจะได้เปรียบ หรือเสียเปรียบนั้น คงยากที่จะพูดได้ “สมคิด เชื้อคง” กรรมาธิการจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า สูตรแบบนี้ ไม่ได้เป็นการทำลายพรรคเล็ก และมองว่าพรรคเล็กยังมีโอกาส

 

แต่จะต้องปรับตัวในการทำงาน ในการต่อสู้ต้องขยายฐานสมาชิกเพิ่ม และต้องทำงานหนักขึ้น แต่หากสู้ไม่ไหว ก็อาจไปรวมกับพรรคใหญ่ หรือรวมกันเองให้เป็นพรรคที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมก็ได้และจากคำชี้แจงดังกล่าว

 

ที่มีการแนะนำให้พรรคเล็กขยายฐานสมาชิกก็ชัดเจนว่า พรรคไหนมีฐานสมาชิกมากกว่า ย่อมได้เปรียบสำหรับกติกาใหม่ซึ่งจากสถิติของคณะกรรมการการเลือกตั้งพบว่า ปัจจุบันประเทศไทย มี 87 พรรคการเมืองที่ยังคงทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่

 

มีประชาชนเป็นสมาชิกพรรครวม 1,218,368 ราย ซึ่งน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในประเทศไทย โดย 5 อันดับแรก ที่มีสมาชิกพรรคสูงสุดคือ 1.ประชาธิปัตย์ 98,987 ราย, 2 พลังประชารัฐ 60,972 ราย,3.เพื่อไทย 62,126 ราย,4.ภูมิใจไทย 60,677 ราย และ 5.ก้าวไกล 37,951 ราย…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube