fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

‘เชลซี’ ความหวังสุดท้ายลุ้นโค่น ‘ลิเวอร์พูล’ ซิวเอฟเอคัพ

การแข่งขัน ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2021-2022  รอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์ที่14 พฤษภาคม 2565 เป็นการพบกันระหว่าง เชลซี ลงสนามพบ ลิเวอร์พูล โดยการแข่งขันจะเกิดขึ้นที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลา 22.45 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

สถิติการพบกันทั้งหมด 178 ครั้ง เชลซี ชนะ56 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะ75ครั้ง เสมอกัน47ครั้ง

 

สำหรับผลการพบกันในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทั้ง 2 เกม ปรากฎว่าลงเอยด้วยผลเสมอทั้งหมดเลย ส่วนผลการเจอกัน 5 เกมหลังสุด ปรากฎว่ามีสถิติสูสีกันมากๆ โดยผลัดกกันชนะ-แพ้ทีมละ 1 นัด และลงเอยด้วยผลเสมออีก 3 เกม ความพร้อมของทั้งสองทีม

 

เชลซี กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งในเกมกลางสัปดาห์หลังบุกไปถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบขาดลอย 0-3 ซึ่งก็น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้พอสมควร ส่วนใน เอฟเอ คัพ พวกเขาผ่าน คริสตัล พาเลซ มาได้อย่างไม่ยากเย็น 2-0 ในรอบ 4 ทีมสุดท้าย

 

โดยเกมนี้จะเป็นการพบกันในรอบชิงชนะเลิศหนที่สองในรอบไม่กี่เดือนของทั้งคู่ หลังจากนัดแรกเป็น สิงห์บลู ที่พ่ายจุดโทษไปแบบน่าเสียดายในเกม คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

 

ความพร้อมก่อนเกม ยังไม่สามารถใช้งาน มาเตโอ โควาชิช คัลลัม ฮัดสัน โอดอย และ เบน ชิลเวลล์ ในเกมนี้ได้แน่นอนแล้ว ส่วนในรายของ เอ็นโกโล ก็องเต้ ยังคงต้องรอลุ้นผ่านความฟิตก่อนเกมจะเริ่มอีกครั้ง

 

คาดว่า โธมัส ทูเคิ่ล เตรียมจัดทัพโดยมี โรเมลู ลูกากู ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ เมสัน เม้าต์ กับ คริสเตียน พูลิซิช ผนึกกำลังกันสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลังตามสูตร

 

ฟาก ลิเวอร์พูล ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเฉือนเอาชนะ แอสตัน วิลลา มาได้ 1-2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้พวกเขายังคงไล่ตาม แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงอยู่ 3 คะแนนกับเกมที่เหลือในฤดูกาลนี้อีกสองนัดแต่ผลต่างประตูได้-เสียยังเป็นรองถึง 7 ลูกด้วยกัน

 

ส่วนในรายการนี้พวกเขาเฉือนเอาชนะ เรือใบสีฟ้า มาได้ 3-2 เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการเข้าชิงชนะเลิศได้ถึง 3 รายการในฤดูกาลนี้ของ พลพรรค หงส์แดง ความพร้อมก่อนเกม จะไม่สามารถใช้งาน ฟาบินโญ ในเกมนี้ได้

 

เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ ด้าน โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน หายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง ส่วนตัวหลักรายอื่น ๆ ฟิตพร้อมลงสนามในเกมนี้ทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพโดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่ กับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายและใช้ นาบี เกอิต้า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า ผนึกกำลังกันคุมกลางตามสูตร

 

หากมองทรรศนะคู่นี้ การกลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากนัดชิงคาราบาวคัพเป็นทีมหงส์แดงที่แม่นจุดโทษกว่าคว้าแชมป์ไป การเจอกันครั้งนี้น่าจะออกมาสนุกและสูสีแบบทุกครั้งที่เจอในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน

 

เชลซี แม้จะฟอร์มหลุดๆ บ้างในศึกพรีเมียร์ลีก เพราะว่าทำผลงานในช่วงหลังได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ เชลซี ยังคงเป็นทีมที่เล่นในศึกฟุตบอลถ้วยได้อย่างยอดเยี่ยม และหวังคว้าแชมป์แก้ตัวจากเมื่อ 2 ฤดูกาลหลังสุดที่สามารถตบเท้าเข้าชิงได้ตลอด แต่ต้องพบกับความผิดหวังจากการเข้าป้ายรองแชมป์ทั้งหมดเลย

 

ส่วน ลิเวอร์พูล หมายมั่นปั้นมือหวังคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกในยุคของกุนซือ เยอร์เกน คลอปป์ นั่นเอง หลังจากที่กรำศึกหนักจากการลงเล่นในหลายๆ รายการมาแบบต่อเนื่องเลยนั่นเองเเต่เกมนี้เชื่อว่า เชลซี พร้อมทุ่มแบบสุดตัวอย่างแน่นอน เพราะนี่คือความหวังสุดท้ายแล้ว

 

ในการมีเเชมป์ฟุตบอลในประเทศติดมือ ส่วน หงส์แดง ยังมีเกมนัดสำคัญรออยู่ในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ เชลซี น่าจะมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ได้เหมือนกัน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube