หลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมชายที่อ้างตัวเป็น“พระบิดา”ภายในสำนักแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ โดยมีพฤติกรรมแปลกประหลาด ให้ลูกศิษย์รับประทานปัสสาวะ อุจจาระ เสมหะ ขี้ไคล เพื่อรักษาโรค และยังพบอีก 11 ศพด้วย
ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สะท้อนถึงในเรื่องของความเชื่อหรือลัทธิและคงต้องสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าจากเหตุการณ์เบื้องต้นนั้นได้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยยังคงมีจุดอ่อนหรือช่องโหว่ที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นอย่างมาก ทั้งใน
เรื่องของตรรกะ ความเชื่อรวมถึงการศึกษาด้วย เพราะส่วนใหญ่บุคคลที่เข้ามาเป็นสาวกหรือลูกศิษย์ชายที่อ้างตัวว่าเป็นพระบิดานั้นส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ และคาดว่าบุคคลกลุ่มนี้เมื่ออยู่ในสังคมที่ปกติแล้วไม่ได้เป็นที่ยอมรับ แต่เมื่อพอมาศรัทธาเชื่อในเรื่องลัทธิตามพระบิดาแล้วจึงทำให้คิดว่าตนเองนั้นมีตัวตนและที่ยืนมากขึ้น
โดยทางด้านสาธารณสุขต่างก็ยืนยันว่าการกินสิ่งปฏิกูลนั้นเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการติดเชื้อและอาจนำไปถึงขั้นการเสียชีวิตได้ด้วย ส่วนในการพบศพทั้ง11ศพ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เร่งชันสูตรเพื่อยืนยันตัวอัตลักษณ์บุคคลและหาสาเหตุจากการเสียชีวิตที่แท้จริงด้วย ส่วนชายที่อ้างว่าเป็นพระบิดา หลังจากที่ถูกจับกุมและได้รับการประกันตัวที่ผ่านมา พบว่าเจ้าตัวไม่ได้กลับเข้ามาที่สำนักแต่อย่างใด ขณะที่ฝ่ายปกครองได้ร่วมหลายฝ่ายเร่งประสานช่วยเหลือหากลูกศิษย์ท่านใดมีความประสงค์ที่จะกลับภูมิลำเนาเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดเตรียมจัดรถรับส่งให้ถึงที่ต่อไป
นอกจากนี้ทางฝ่ายปกครองก็ได้สั่งให้รื้อถอนสำนักดังกล่าว โดยจะให้โอกาสทางพระบิดามาเก็บทรัพย์สินของตนไป และถ้าหากว่าถึงกำหนดให้ออกแล้วแต่ยังฝ่าฝืนไม่ทำตาม ก็คงต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
เนื่องจากพบว่าทางด้านพระบิดาได้กระทำเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน อีกทั้งในช่วงที่อยู่ในสำนักดังกล่าวก็ไม่ได้มีการสวมแมสก์ เว้นระยะห่าง จึงทำให้ทางสาธารณสุขตั้งข้อสังเกตอีกว่า จะทำให้เกิดโรคระบาดตามมาหรือไม่และเร่งหาข้อมูลว่าพระบิดาได้มีประวัติในการเข้ารักษาด้านจิตเวชหรือไม่
ทั้งนี้ประเด็นที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงมีความสงสัยนั่นก็คือทำไมต้องเป็นหมอปลาที่เข้าไปทลายลัทธิดังกล่าว แล้วเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐทำอะไรอยู่ ดังนั้นอาจสืบเนื่องมาจากที่คนไทยมักมีความเชื่องมงายในสิ่งลี้ลับจึงทำ
ให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ประเภทนี้ก็จะมีการร้องเรียนไปที่หมอปลาให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งถือว่าทุกฝ่ายไม่ได้ปล่อยปะละเลยเพียงแต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่พบผู้เสียหายหรือมีการแจ้งความก่อนหน้านี้ จึงไม่สามารถเอาผิดตัวพระบิดาในฐานหลอกลวงได้ ประกอบกับลัทธิสุดแปลกต่างๆก็ไม่ได้มีแต่เพียงประเทศไทยเท่านั้นด้วย
อย่างไรก็ตามการศรัทธาในเรื่องของความเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบังคับกันได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าคงสะท้อนให้คนไทยต้องกลับไปตระหนักและคิดให้รอบครอบมากยิ่งขึ้นหากจะทำกระทะสิ่งใดลงไปนั้นจำ
เป็นที่จะต้องคำนึงถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นให้รอบด้านต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
