ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง น้ำมันแพง สินค้าแพง ค่าครองชีพสูงรายได้ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ปกครองต่างนำทรัพย์สินเท่าที่มีอยู่ไปจำนำหาเงินรับเปิดเทอม ซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียนใหม่ ให้กับลูก หลาน
โดยบรรยากาศที่สำนักงานธนานุเคราะห์ หรือ โรงรับจำนำของรัฐ ซึ่งมีกว่า 40 สาขาทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด พบว่า มีประชาชนรวมถึงผู้ปกครอง นำทรัพย์สินมีค่าเท่าที่มี เข้ามาจำนำแลกเงิน เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าเทอม ค่าเล่าเรียนให้กับลูกหลาน หลังรัฐบาลได้มีประกาศเปิดสถานศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 17 พ.ค.2565 นี้
โดย นางสุพัสตรา จันทร์ศรีรองผู้อำนวยการ สายงานผลิตภัณฑ์และบริการสำนักงานธนานุเคราะห์ บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สำนักงานธนานุเคราะห์ หรือ โรงรับจำนำของรัฐ ได้เตรียมเงินสดกว่า 1,000 ล้านบาท ไว้รองรับความต้องการใช้เงินสดของประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการเงินไว้ใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมนี้ มั่นใจเพียงพอกับความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน
ส่วนที่บรรยากาศ โรงรับจำนำ กว่า 40 สาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัดช่วงนี้คึกคักได้รับความสนใจจากประชาชนมาใช้บริการนำของมีค่ามาจำนำ เพื่อนำเงินสดไปเสริมสภาพคล่องทางการเงินเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากกระแสเงินสดที่จ่ายออกประมาณ 10 ล้านบาทต่อวัน
สำหรับสถานธนานุเคราะห์ฯถือเป็นโรงรับจำนำของรัฐบาล เปิดให้บริการ 08.00 น. – 16.00 น. ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ (หยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) คิดอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าของโรงรับจำนำทั่วไป คือ เงินต้น 1 – 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 0. 25 สตางค์ ต่อเดือน / เงินต้น 5,001 – 100,000 คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 1 บาท ต่อเดือน ดังนั้นจึงได้รับความสนใจจากประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
ขณะที่บรรยากาศร้านทองในช่วงก่อนเปิดเทอม นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า บรรยากาศการซื้อทองในช่วงนี้ถือว่าเงียบเหงา ส่วนใหญ่เป็นการมาขายคืนให้กับทางร้านมากกว่า
เนื่องจากประชาชนไม่มีเงินสดในการใช้จ่าย อีกอย่างภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรายังถือว่าไม่ดี ประชาชนมีรายได้น้อย จึงไม่ค่อยมีการซื้อมีแต่ขายคืน ส่วนราคาทองคำคาดว่ายังยืนอยู่ 30,000 บาทต่อบาททองคำ ในระยะนี้ถือว่าโรงรับจำนำเป็นอีกที่พึ่งสำหรับคนรายได้น้อยแต่ยังพอมีทรัพย์ ต้องการใช้เงินสดในยามจำเป็น หรือเงินขาดมือ
ดังนั้นในช่วงนี้จึงได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก จากประชาชนหอบของมีค่าจำนำแลกเงินเพื่อใช้จ่าย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
