จากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถชนิดต่างๆ ในทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับ วินรถจักรยานยนต์ที่ให้บริการ ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงจนต้องตัดสินใจเลิกอาชีพ รถจักรยานยนต์รับจ้าง
เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้ไหวตัดสินใจกลับบ้านไป ทำไร่ ทำนา เพราะค่าใช้จ่ายในกรุงเทพนับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ไม่สามารถที่จะประคับประคองต่อไปได้จึงตัดใจและกลับไปอยู่ต่างจังหวัด บางรายต้องฮึดสู้ลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืด เพื่อที่จะมารอรับผู้โดยสารและกลับเข้าบ้านในช่วงดึก เพื่อให้รายได้แต่ละวันเพียงพอกับรายจ่าย
ขณะที่อัตราค่าโดยสารทางผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างยืนยันว่า ยังไม่ปรับขึ้นราคายังเป็นราคาเดิมที่ใช้ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดตามระยะทาง
โดยนายเฉลิม ช่างทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า รถจักรยานยนต์รับจ้างปัจจุบันถือว่าได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และค่าครองชีพก็ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ รายได้ต่อวันไม่เพียงพอกับรายจ่าย ต้นทุนในการเติมน้ำมันวันละ150บ./คัน ซึ่งปีที่ผ่านมายังอยู่ที่วันละ 100 บาท แต่ปีนี้น้ำมันกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ราคาปรับเพิ่มขึ้นแตะลิตรละ 40 บาท ทำให้ต้นทุนเพิ่ม
ขณะที่ภาครัฐได้ออกโครงการ วินเซฟ ลดผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินสำหรับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่มีใบอนุญาต – จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน ช่วยเหลือ ค่าน้ำมัน 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 ซึ่งจะต้องกดรับสิทธิผ่านแอปฯเป๋าตัง นั้น
นายเฉลิม บอกถึงโครงการดังกล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือที่ออกมา ยังไม่ตอบโจทย์ของปัญหามากเพียงพอ แต่ดีกว่าไม่ได้อะไร เลย และพอคำนวณแล้วการช่วยเหลือ 250 บาทต่อเดือน ไม่เกินวันละ 50 บาท เฉลี่ยตกวันละ 8 บาท มันน้อยเกินไป เหมือนทำให้รู้ว่าช่วยแล้ว ซึ่งมันเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ภาครัฐควรมีแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว?และขณะนี้ระบบในแอปฯเป๋าตังก็ไม่สามารถใช้งานได้พอเข้าไปในแอปฯ จะกดรับสิทธิ์ระบบบอกว่าไม่มีชื่อ ทั้งๆที่รถที่ใช้ขับวินทุกคันเป็นรถที่ลงทะเบียนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบก
ถือว่าเรื่องรางของราคาน้ำมันทั้งกลุ่มดีเซลและกลุ่มเบนซินเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หลายๆอย่างนั้นได้รับผลกระทบไม่เพียงแต่ผู้ที่ใช้รถชนิดต่างๆยังรวมไปถึงสินค้าและบริการอื่นๆที่จ่อเรียงคิวจะปรับขึ้นราคาขึ้นตาม สวนทางกับรายได้ของประชาชนที่ลดน้อยลง ขณะที่ค่าของชีพได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆสิ่งเดียวที่เป็นความหวังของคนทั้งประเทศคือรอคอยการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
