คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ตกเรือสปีทโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ใกล้จะปิดแฟ้มเต็มทีตำรวจชุดคลี่คลายคดีใช้เวลากว่า 2 เดือนในการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถเอาผิดคนบนเรือทั้ง 5 คนและจะมีการแถลงปิดคดีในสัปดาห์หน้าพร้อมกับส่งสำนวนให้กับอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา ท่ามกลางความเคลือบสงสัยและยังเกิดคำถามมากมายว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับแตงโม คดีได้กลับมาเป็นที่
จับตามองอีกครั้ง หลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แถลงเปิดหลักฐานสำคัญและเชื่อว่าคดีน่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่าอุบัติเหตุและได้ตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวน จนนำมาสู่การร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.ให้เอาผิดคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
กรณีไม่ปฏิบัติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และ 132 และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คำสั่งที่ 419/2556 ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 157
โดยนายอัจฉริยะ อ้างว่าพนักงานสอบสวนในคดีมีขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จไม่ทำตามระเบียบ ตั้งแต่การอายัดเรือของกลางในคดีไว้ตรวจสอบ และการเก็บหลักฐานบนเรือถึงสามครั้งแต่ไม่พบเส้นผม และมาพบครั้งที่ 4 ซึ่งมองว่าเส้นผมที่พบไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่มีขบวนการทำขึ้นเพื่อให้สอดรับกับคำให้การของ แซน ที่อ้างว่าแตงโมมาฉี่ท้ายเรือก่อนจะตกลงไป ซึ่งมองว่ามีการตั้งธงไว้แต่ต้นและสงสัยว่ามีความพยายามยามช่วยเหลือแซนหรือไม่ เพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าแตงโมตกจากท้ายเรือแต่มีความเป็นไปได้ว่าแตงโม อาจจะตกจากหัวเรือ
ซึ่งตนเองยังมีหลักฐานสำคัญอีก 2 ชิ้น ที่ได้ผู้เชี่ยวชาญมาทำให้ภาพมีความชัดเจนขึ้น แต่ยังไม่เปิดเผย โดยจะรอฟังการแถลงปิดคดีของตำรวจในวันที่ 26 เม.ย.นี้ก่อน พร้อมย้ำว่าตนเองออกมาเคลื่อนไหวไม่ใช่หิวแสง แต่ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมมีความถูกต้องเป็นธรรมไม่ใช่ผู้ต้องหาเป็นคนรวยแล้วจะทำอะไรก็ได้และเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรไปดูแลเอาใจใส่แต่คนรวยเท่านั้น
” แต่ว่าสิ่งที่เรากำลังพิสูจน์ความจริง /ผมถามว่าวันนี้เราจะให้ดาราคนหนึ่งถูกตราหน้าว่าไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือแล้วตกน้ำตายเอง/คุณจะให้สังคมตราหน้าเป็นแบบนั้นเหรอ /ความยุติธรรมมันมีไหมผมถามหน่อย / ผมไม่ได้ทำเพื่อแตงโมคนเดียว/แต่ผมต้องการเห็นกระบวนการยุติธรรมบ้านเรานะครับ/ไม่ใช่คนรวยแล้วจะทำอะไรก็ได้ นะครับ/แล้วก็เจ้าหน้าที่รัฐไปดูแลเอาใจใส่แต่คนรวย”
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลและพยานหลักฐานที่นำมาเปิดเผยยืนยันว่าเป็นของจริงและเชื่อถือได้และตำรวจภูธรภาค1ก็มีแต่ที่ผ่านมาตำรวจกลับไม่เคยชี้แจงหรืออธิบายให้ประชาชนทราบทั้งที่สามารถอธิบายกับประชาชนได้โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเส้นผมสามเส้นที่พบบนเรือ จึงมองว่าการทำงานของพนักงานสอบสวนชุดนี้จึงส่อให้เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพ ขาดทักษะ ขาดประสบการณ์
ส่วนกรณีที่แม่ของแตงโม ระบุว่าไม่ได้ให้ค่ากับหลักฐานใหม่นั้น ตนเองก็ไม่เคยให้ค่าแม่ของแตงโมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะไม่เห็นแก่ลูกทั้งที่คนที่เขามาช่วยหาความจริงคุณแม่ก็ไม่น่าพูดแบบนี้แต่ควรจะหาความจริงว่าลูกเสียชีวิตอย่างไร
“การกระทำของพนักงานสอบสวนชุดนี้ มันส่อให้เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพนะครับ/ขาดทักษะขาดประสบการณ์/ดังนั้นคดีอย่างนี้คดีที่สังคมให้ความสนใจทั้งโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย คนต่างประเทศเขาก็ให้ความสนใจเรื่องของแตงโม/ถ้าปล่อยให้คนที่มีความรู้แบบนี้และผู้บังคับบัญชา/ที่มาควบคุมการกำกับดูแลสอบสวนปล่อยให้มีการทำหลักฐานเท็จขึ้นมา/ผมถามว่าวันนี้ความน่าเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ตรงไหน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
