ปมฮั้วเลื่อนฟอกลุง
@การเมืองจังหวะกำลังเข้าสู่บรรยากาศ“สงกรานต์ยุคโควิด”หยุดยาว ที่รัฐบาลเปิดทางให้ “โควิดเป็นโรคประจำถิ่น “ยอมเสี่ยงให้ คนกลับบ้าน ไปเที่ยววันหยุดยาว แต่ก็ยังแอบกระตุกๆไม่เปิดทางให้มีการเล่นน้ำฉลองกันเลยเถิดเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่จากการเล่นน้ำ แม้กระนั้นในภาพใหญ่ก็ยังน่าห่วงอย่างที่ “หมออุดม”ออกมาสะกิดประเมินให้ใจแป้ว ว่า จาก “ช่องโหว่”ที่ยังมีกับบางกลุ่มที่เปราะบางเช่นกลุ่ม608 ผู้เฒ่าผู้แก่และเด็ก ทำให้มีโอกาสว่าหลังสงกรานต์อาจได้เห็นตัวเลข โควิดติดแสนต่อวัน ส่วนอีกมิติหนึ่งในแนว “สงกรานต์การเมือง”มีการจับตาบรรยากาศรดน้ำบรรดาบิ๊กๆใน “ศูนย์อำนาจ3ป.”ที่ยังคงมีภาพการเปรียบเทียบบารมีในทางการเมืองกันอยู่ในที
@แต่ที่น่าสนใจจากหลายฝ่ายตอนนี้ คือร่องรอยการต่อรอง หรือ ดีลในทางการเมือง กับบางจังหวะถัดไปหลังสงกรานต์ ที่แต่เดิมรับรู้กันอยู่ว่า การเปิดสมัยประชุมกลางเดือนพ.ค.มีคิวกฎหมายสำคัญ และ “ศึกซักฟอกรัฐบาล”แบบลงมติ ที่มีจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกับ “นายกฯลุงตู่”กลางทางหรือไม่ จนต้องการมีการจัดเตรียมพร้อมกันทั้งระยะสั้นและระยะยาวเช่นการนัดกินข้าว3ป.พรรคร่วมรัฐบาล และการลงตลาดรวมถึงการเตรียม “พรรคสำรอง” อย่างที่วันนี้(8เม.ย.)มีการออกตัวจาก “นายกฯลุงตู่”ถึงข่าวรัฐบาล “ฮั้ว”กับ “ฝ่ายค้าน”เลื่อนการยื่นญัตติ “ซักฟอก”จากเดือนพ.ค.ไปเดือน ส.ค.
เพื่อกฎหมายลูกเลือกตั้ง2ฉบับเสร็จและผ่านพรบ.งบประมาณวาระแรก ว่า “ไม่ได้คุยกับใคร เรื่องกฎหมายต่างๆที่จะออกแม้กระทั่งการยุบสภา ตนเห็นมีคนพูดแทนหมดยังไม่ได้พูดอะไรกับใครซักคำ และไม่ใช่ว่าจะทำให้หายใจหายคอได้ เพราะหายใจได้เองทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งตนพร้อมที่จะชี้แจงการตรวจสอบจากสภาฯทุกเมื่อ โดยมองว่าการเมืองหลังสงกรานต์ยังเหมือนเดิม เพราะการเมืองมาจากประชาชนที่เลือกผู้แทนเข้ามาจากผู้แทนก็มาเป็นคณะรัฐมนตรี ซึ่งก็อยู่ที่ทุกคนจะทำความเข้าใจกันและกัน วันนี้เท่าที่คุยกัน ครม.ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
@ที่อย่าลืมว่า “จังหวะการเมือง”ช่วงหลังกลับมาจากสงกรานต์นั้น ยังมีปัจจัยที่อาจเป็น บวก หรือ ลบ กับรัฐบาลนายกฯลุงตู่ เกิดขึ้นได้จาก ผลลัพธ์”สงกรานต์โควิด”ที่หากเป็นไปตามที่หมอคาดคือ “ติดแสน”จริง ย่อมเข้าสู่โหมด “งานเข้า”ที่รัฐบาลต้องจัดการ และย่อมมีผลกระทบเป็นโดมิโน่ตามมาในการจัดการ ในจังหวะที่ สถานีถัดไปมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.(22พ.ค.)รออยู่ ที่ถือเป็น “ไม้วัด”ทิศทางเรตติ้งทางการเมืองจากคนกรุงฯ
ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมความสมบูรณ์ของ กฎหมายลูก2 ฉบับ ที่มีประเด็นความพยายามแก้ไขประเด็น “ได้เปรียบ-เสียเปรียบ”ระหว่างฝ่าย “ศูนย์อำนาจ3ป.”กับฝั่ง “นักการเมือง”โดยเฉพาะ พรรคใหญ่ อย่างเพื่อไทย ที่ตั้งเป้า “แลนด์สไลด์”หลังเลือกตั้ง อย่างที่มีการสกัดไปยกหนึ่งแล้วกับประเด็น ดัน“บัตร2ใบคนละเบอร์”แถมล่าสุดยังมีการไปยื่นจากพรรคเล็กโดย “ระวี”ให้โละปม “บัตร2ใบ”
@เรียกว่าเป็นไปตามทรงที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าฝ่ายศูนย์อำนาจ ย่อมไม่ต้องการให้เกิดภาพ “ขั้วอำนาจเก่า”กลับมา “แลนด์สไลด์”ชนะเลือกตั้ง จึงต้อง “ดึงเช็ง”ใช้เวลาที่เหลืออย่างที่มีการ “รับปาก”จากพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะประคองกันไปครบเทอมปลายปี65 ในการช่วงชิง “ความได้เปรียบทางการเมือง”กับ “กติกา”อย่างเช่น “กฎหมายลูก”ปมบัตร2ใบ ที่จะมั่นใจได้ว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายชนะแบบแลนด์สไลด์ ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมถึง แนวโน้มว่ากำลังมีการใช้“กลยุทธ์วิธี”เดิมที่เคยใช้ได้ผลในการ “จัดการ”กับ “นักการเมือง”ให้ยอม ในการ “ต่อรอง”ให้เป็นไปในทิศทางไทม์ไลน์ที่ “ผู้คุมเกม”ต้องการ
@อย่างที่มีการออกมาย้ำถึง “บรรทัดฐานใหม่”ที่จะเกิดขึ้น จากเคส “เอ๋ ปารีณา”หนึ่งใน “อดีตองครักษ์พิทักษ์ลุง”ที่โดน “ประหารชีวิตการเมือง”ตัดสิทธิ์การเป็นนักการเมืองตลอดชีวิต เมื่อวาน(7เม.ย.) ที่ดูเผินๆเหมือนเป็นการ “เตือนด้วยความหวังดี”ไปถึง “นักการเมือง”จาก “อ.วิษณุ”และ “นายกฯลุงตู่”(7เม.ย.)แต่ดูอีกที ก็เหมือนการขู่อยู๋ในที กับ “นักการเมือง”ส.ส.ใหญ่น้อย อีก20กว่าคน
ซึ่งโดนคดีลักษณะเดียวกันกับ “ปารีณา” ที่มีอยู่ทั้งในพรรครัฐบาลทั้งพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และพรรคร่วมฯ ประมาณ10กว่าคน รวมถึงส.ส.ฝ่ายค้านอีก7-8คน ที่ทั้งหมดทั้งมวล ถูกมองว่าเป็น “ส่วนผสม”ที่ส่งผลให้ “จังหวะการเมือง”แบบ “ศึกซักฟอก”ถูกขยับออกไปอีก3เดือน จากเดิมในเดือนพ.ค.ทันทีที่เปิดสภาฯ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
