เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนเด็กพิเศษอายุ5-11ปีถึง28ก.พ.กลุ่มเด็กเจ็บป่วยสุขภาพจิต กลุ่มเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าและเด็กสมองพิการ
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้เดินตรวจเยี่ยมการฉีดซีนให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี พร้อมระบุว่า กรมสุขภาพจิต ได้ให้ความสำคัญและให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับกลุ่มเด็กบกพร่องพัฒนาการและสติปัญญา(เปราะบาง) ช่วงอายุ 5-11 ปี เช่น กลุ่มเด็กเจ็บป่วยสุขภาพจิต กลุ่มเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า เด็กสมองพิการ เด็กออทิสติก ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ มีอัตราการติดเชื้อและอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงกว่าคนทั่วไปถึง 9.3 เท่า เนื่องจากความสามารถในการดูแลตัวเองน้อยกว่าเด็กทั่วไป การปฏิบัติตัวในการป้องกันตนเองจากเชื้อโรคได้ไม่ดีพอ เช่น การปฏิเสธใส่หน้ากากอนามัย การไม่เว้นระยะห่าง ทางกรมสุขภาพจิตจึงใส่ใจเด็กกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากได้รับการจัดสรรวัคซีน จากกระทรวงสาธารณสุข กรมสุขภาพจิตก็ได้ดำเนินการประสานกับโรงเรียน มูลนิธิ หน่วยงานในเครือข่ายเพื่อให้เข้าถึงเด็กกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยลดอัตราการติดเชื้อและการป่วยรุนแรงในกลุ่มเด็กเสี่ยงเหล่านี้ และช่วยให้เด็กและผู้ปกครองลดความกังวลในการทำกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการและกิจกรรมเข้าสังคมต่างๆในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด
“ที่จริงแล้วกลุ่มเด็กพิเศษกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัว สำหรับเราจะเน้นหนักเป็นพิเศษด้วยสำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวแล้วก็มีข้อบกพร่องทางด้านสติปัญญาการเรียนรู้ซึ่งเด็กกลุ่มนี้แน่นอนค่ะด้วยโรคทางกายที่เขามีอยู่เขาจะง่ายต่อการติดเชื้อเมื่อติดเชื้อแล้วก็จะง่ายต่อการลุกลามเป็นปัญหาที่รุนแรงนะคะ แต่ถ้าเรามองอีกมิติหนึ่ง ก็คือเรื่องของข้อจำกัดทางด้านสติปัญญา ก็จะพบว่าเขาจะมีปัญหาด้านพฤติกรรมมาด้วยเด็กกลุ่มนี้อาจจะไม่สามารถปกป้องตนเองจากเชื้อโรคได้ดีเท่าที่ควร ความเข้าใจที่จะจัดระเบียบตัวเองให้ล้างมือสม่ำเสมอ รักษาระยะห่าง หรือว่าหลีกเลี่ยงภาชนะที่ใช้ร่วมกันเหล่านี้จะทำได้ไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นเราจึงให้ความสำคัญปกป้องเด็กกลุ่มนี้เป็นพิเศษ”
ในวันเดียวกันนี้อธิบดีกรมสุขภาพจิต ยังได้เปิดโครงการ Vaccinated Together ชวนลูกรับวัคซีนกัน เพื่อสื่อสารและสร้างช่องทางเข้าถึงระบบบริการวัคซีน อีกทั้งส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจที่ดีในการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปี ด้วยหลัก 4 ช.คือ เชื่อมั่น, เชิญชวน, ช่องทางและชื่นชมให้บริการด้วยความเป็นกันเอง ด้าน นางอรทัย สุทธรวิภาต อายุ 41 ปี มารดา น้องเกรช อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 เปิดเผยขณะพาลูกสาวมารับการฉีดวัคซีนว่า หลังทราบว่ามีบริการฉีดวัคซีนก็ได้ลงทะเบียนและพาลูกมาฉีดตามนัด โดยน้องเกรซเตรียมตัวมาดี หลังฉีดไม่มีอาการแพ้อะไร พร้อมระบุว่าแม้จะฉีดวัคซีนแล้วแต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่
“ถามว่าเชื่อมั่นไหม ก็มั่นใจขึ้น แต่ตัวเราเองต้องเซฟนะคะ ใช่ค่ะ ตัวเราเองต้องเซฟตัวเราเอง คนอื่นหนูไม่รู้แต่ครอบครัวหนู หนูเซฟเต็มที่”
กรมสุขภาพจิต โดยสถาบันราชานุกูลเป็นหน่วยงานหลักในการจัดบริการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเด็กเปราะบางกลุ่มนี้ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรง และช่วยให้เด็กๆสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้อย่างปลอดภัย โดยสถาบันราชานุกูลเปิดลงทะเบียนออนไลน์ สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเป็นวัคซีนไฟเซอร์ขนาด 10ไมโครกรัม ด้วยการฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 8 สัปดาห์ กรณีเด็กที่เคยมีการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว จะฉีดวัคซีนเพียงหนึ่งเข็ม โดยเว้นระยะเวลาอย่างน้อยสามเดือนเมื่อหายดีจากโรคโควิด-19 ซึ่งการฉีดวัคซีนจะต้องได้รับการยินยอมและอนุญาตจากผู้ปกครอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
