fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

โค้งสุดท้าย​ลต.ซ่อมหลักสี่คึกคัก พปชร. ก้าวไกล ลุยพบปชช.

“สรัลรัศมิ์” ปรับยุทธศาสตร์หาเสียงโค้งสุดท้าย เน้นเข้าถึงพบปะกับประชาชนให้มากขึ้น ไม่จัดเวทีปราศรัย มั่นใจรักษาเก้าอี้ได้

 

บรรยากาศการหาเสียงที่ตลาดริมบึง แจ้งวัฒนะ 14 มีหลายพรรคการเมือง เร่งลงพื้นที่ เรียกคะแนนเสียงจากประชาชนกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดย นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ลงพื้นที่ลงหาเสียง พร้อม ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา

ทั้งนี้ นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้าย ได้มีการปรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียง โดยเน้นพบปะกับประชาชนให้มากขึ้น โดย 1 วันจะต้องไปในหลายพื้นที่ตั้งแต่เช้ายันค่ำ แม้จะได้เน้นพื้นที่ใดเป็นพิเศษ พร้อมยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่เหมือนพรรคอื่น โดยในวันจันทร์ ที่ 24 ม.ค.นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีของพรรคฯ ร่วมลงพื้นที่พบปะกับประชาชน ที่โครงการบ้านมั่นคงริมคลอง

ส่วนกระแสความขัดแย้งและรอยร้าวภายในพรรคหลังมีมติขับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ 20 ส.ส.พ้นจากพรรค จะกระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นั้น นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ไม่ได้รู้กังวลเพราะเน้นพบปะประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงโดยตรง ที่สำคัญคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีกับรัฐบาล พร้อมมั่นใจ รักษาฐานเสียงพื้นที่เขตหลักสี่ เอาไว้ได้ 100%

 

 

 

 

“อรรถวิชช์” หาเสียงโค้งสุดท้ายลุยเดินเข้าหาประชาชน เตรียมเปิดปราศรัย 23 ม.ค.นี้

 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมจตุจักร-หลักสี่ พรรคกล้า เดินพบประชาชนที่แฟลตตำรวจส่วนกลาง เขตจตุจักร ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเน้นการเดินหาเสียงพบปะประชาชนแบบตัวต่อตัวในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเตรียมการปราศรัยครั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ณ สวนสามเหลี่ยม หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 ถนนเทศบาลสงเคราะห์ (ก่อนข้ามคลองประปา) โดยมีบุคคลที่สนับสนุนนายอรรถวิชช์ จากแวดวงต่างๆ ร่วมปราศรัยสนับสนุนการเมืองคุณภาพ และจะมีเวทีปราศรัยใหญ่วันศุกร์ที่ 28 ม.ค. 65 ที่สนามเคหะท่าทราย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เพชร-กรุณพล” ควง “รังสิมันต์ โรม” ขอคะแนนเสียงชาวตลาดเคหะทุ่งสองห้อง ขณะทหาร ปตอ.เดินผ่านคนโห่ใส่

 

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือเพชร ผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร ควง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลงพื้นหาเสียง ที่ ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง ขอคะแนนเสียงจากพ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ พร้อมตั้งโต๊ะปราศรัย ถึงปัญหาราคาสินค้าแพงที่ยังไม่มีการแก้ปัญหาจากรัฐบาล วันนี้ พรรคก้าวไกลจึงมาขออาสา แก้ไขปัญหาผ่านกลไกสภา ซึ่งยอมรับไม่ใช่เป็นนักการเมืองมาแต่กำเนิด แม้เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ แต่ไม่เคยกลัว นายพลผู้มากบารมี และนายทุนผูกขาด รวมถึงไม่เกรงกลัวที่จะถูกดำเนินคดีในการทำสิ่งที่ถูกต้อง รวมถึงการถูกยุบพรรค หลายคนอาจจะไม่ชอบตนและพรรคก้าวไกล แต่ตนเชื่อในระบอบประชาธิปไตย และเชื่อมั่นในอิสระทางความคิดของประชาชน? ดังนั้นขอให้ไปเลือกคนและพรรคที่ตนเองชอบ อย่าไปนอนหลับทับสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม ในการเดินหาเสียงในตลาด นายกรุณพล และนายโรม ถูกตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรรคเกี่ยวกับสถาบัน ซึ่งทั้งสองได้ชี้แจง ว่าไม่มีใครล้มสถาบันได้ สถาบันต้องอยู่คู่ประชาชน ทั้งนี้ ระหว่างตั้งโต๊ะปราศรัย ได้มีทหารและรถทหาร จาก ปตอ.1.พัน 5 เคลื่อนผ่านหน้าตลาด ทำให้มีประชาชนร้องโห่ใส่

ทั้งนี้ นายกรุณพล ยืนยันถึงการเป็นดารานักแสดงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ประชาชนรู้จักง่าย สภาพอากาศดีที่จะได้ชี้แจงในสิ่งที่ประชาชนสงสัย และจุดยืนเกี่ยวกับสถาบันของพรรคก้าวไกล ซึ่งยืนยันว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงมี กระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ และมองว่าการแพ้เลือกตั้งซ่อมที่จ.สงขลา และชุมพร ครั้งที่ผ่านที่มีคะแนนน้อยกว่าการเลือกตั้งปี 2562 จะไม่ส่งผล ต่อการเลือกตั้งที่หลักสี่เพราะแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ส่วนการขออนุญาตเข้าหาเสียงภายในพื้นที่ทหาร นั้น ขณะนี้ได้รับการอนุญาตให้ เข้าไปหาเสียงได้แต่มีข้อจำกัด ไม่ตั้งเวทีการจัดเวทีแต่ไม่กำลังพลมารับฟังการปราศรัย ก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่เมื่อได้รับอนุญาตแล้วไม่มีคนฟังก็จะไปพูด ในเมื่อกล้าให้แล้ว ก็กล้าไป

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube