“กระเพื่อม”ไปทั้งวงการหมากรุกการเมืองเบี้ยโคนขุน“หัวหมู่ทะลวงฟัน”และแวดวง “นักร้อง”น้องรัก รวมถึง บรรดา “ตัวละครการเมือง”ที่อยู่ในเซตเดียวกันทั้ง “เอ๋ ปารีณา” “ไพบูลย์ นิติตะวัน”
ที่มีบทบาทเป็นมือไม้เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วกับ “ศูนย์อำนาจ3ป.”ในเกมสภาฯใหญ่และสภาเล็กแบบกรรมาธิการคณะต่างๆในการประคอง“กระดานอำนาจ”ที่ “ฝ่ายบริหาร” “รัฐบาล3ป.”ห้วงแรกๆ ที่“น้องเล็ก”ไม่ค่อยถูกโฉลกกับ กลไกฝ่ายนิติบัญญัติในด้าน “การตรวจสอบฝ่ายบริหาร”หนนั้น กับปรากฏการณ์ล่าสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเสียงข้างมากให้ “สิระ เจนจาคะ” สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็นส.ส ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา98(10) นับแต่วันเลือกตั้ง คือ วันที่ 24 มีนาคม 2562
ที่มีแนวโน้มชัดว่าการ อวสานของ “หัวหมู่”ไม่ได้แค่เพียงแต่ผลกระทบกับเจ้าตัวเองที่นอกจากการจ่ายย้อนหลังและโดนคดีอาญายังมี “โจทย์”อีกหลายเจ้าที่รอเคลียร์บิล ไม่แต่เฉพาะ “ตู่ใหญ่” “พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์”ที่เป็น “ต้นเรื่อง”ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประกาศกัดไม่ปล่อย และเตรียมเก็บศพบรรดา“หัวหมู่”ของ “นายพล”ที่มีชนักคดีติดตัวในลักษณะเดียวกันกับ “สิระ”เพิ่มเพราะด้วยลีลาที่ดุดันในการทำงานของ “สิระ”ห้วงที่ “ศูนย์อำนาจ3ป.”คอย “อัฟเลเวล”บรรดา “ศิษย์หลวงพ่อป้อม”ให้มีบทบาทในกรรมาธิการสภาฯเพื่อคานกับเกมตรวจสอบจาก “ฝ่ายตรงข้าม”ที่มีบ้างที่การเคลื่อนตัวไปสร้างศัตรูระหว่างรายทางที่เอฟเฟกต์ที่ตามมาจะส่งผลไม่แต่ตัว“สิระ”หากแต่จะยังส่งผลสะเทือนมาถึง “พรรคพลังประชารัฐ”และรัฐบาลรวมถึง “นายกฯลุงตู่”ในหลายมิติ อย่างที่ “อ.วิษณุ”เองก็ยอมรับถึงข้อกฎหมายเป็นไปเช่นนั้นกับการที่มีข่าว สภาฯ เรียกเงินคืนจาก “สิระ” เหตุขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันลงสมัครส.ส. ส่วนร้อง “กกต.-พปชร.” ได้หรือไม่ ยังไม่แน่ใจ
ที่ก็สอดรับกับ “เทพไท เสนพงศ์”อดีตส.ส.นครฯ ปชป.ที่ออกมาชี้เป้าให้ บรรดา“นักร้อง”ได้ทำงาน โดยให้ ดูถึง6อ๊าฟเตอร์ช็อกเบาะๆที่ไม่นับรวมเอฟเฟกต์ปลายนวมในซับเซ้ตย่อยของแต่ละข้อ ไล่ตั้งแต่ ประเด็น ตำแหน่ง ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ ว่างลง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมใหม่ ภายใน 45 วัน ,ตำแหน่งประธานกมธ. กฎหมาย การยุติธรรม ว่างลง ต้องสรรหาใหม่ , ปม“สิระ”ต้องคืนเงินเดือนของ ส.ส. ต้องคืนเงินเดือนผู้ช่วย ส.ส., ผู้เชี่ยวชาญ, ผู้ชำนาญการ ต้องคืนค่าเดินทาง และประโยชน์อื่นใด ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ส.ส.,ปม ต้องชดใช้ค่าจัดการเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น เป็นเหตุให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ผู้ขาดคุณสมบัติ ส.ส.จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด ,ปมต้องถูกดำเนินคดีตามมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ที่บัญญัติว่า ผู้สมัครใดรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติมีสิทธิรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี และ ปม พรรคพปชร. ต้องรับผิดชอบตามม.49 วรรค 2 ตามพรป.พรรคการเมือง60 ต้องมีความรับผิดชอบในการส่งผู้สมัคร ที่คุณสมบัติไม่ครบด้วย ฐานเป็นผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และมาตรา 86ซึ่ง ทั้งหมด กกต.ในฐานะ “ผู้เสียหาย”ต้องเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครนั้นด้วย
ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมผลกระทบกับการเพิ่มร่องรอยร้าวที่จะเกิดขึ้นเพิ่มในพรรคร่วมรัฐบาลกับการส่ง “ผู้สมัครส.ส.”ในเลืกตั้งซ่อม ที่ปม เลือกตั้งซ่อมชุมพร – สงขลา ที่แข่งกันเองระหว่าง พปชร.-ปชป.-ภท.จน “หัวหน้าป้อม”ต้องให้ “รัฐมนตรีเฮ้ง”ไปคุมจังหวะแทน “ผู้กองนัส” หรือแม้กระทั่งปม “เลือกตั้งผู้ว่ากทม.”ที่ยังไม่สะเด็ดน้ำจน “นายกฯลุงตู่”ต้องเรียกใช้บริการ “คนกปปส.”เมื่อวาน(22ธ.ค.)ที่จะมาปรากฏสะท้อนผ่านการจัดการเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลักสี่ แทน “สิระ”ในจังหวะที่ยังมีปัญหา“ศึกใน”ระหว่าง “นายพล กับ ผู้กอง”ที่ยังคาราคาซังขณะที่เวลาเริ่มไม่คอยท่า นับถอยหลังที่กฎหมายสำคัญที่หากไม่ผ่านจะส่งผลต่อตัว “นายกฯ”จะต้องเข้าสภาสมัยประชุมนี้ในขณะที่ส.ส.ฝั่งรัฐบาลยังมีปัญหาเสถียรภาพและการจัดการ ดังภาพสะท้อน “สภาล่ม”ติดต่อกัน ที่ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “สิระเอฟเฟกต์”ที่อาจเกิดขึ้นจากนี้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
