fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ปากน้ำพร้อมรับมวลน้ำเหนือ-ทะเลหนุน

ปากน้ำพร้อมรับมวลน้ำเหนือ-ทะเลหนุนสูง ประชาชนจึงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในตอนนี้ ส่วนหนึ่งเพราะกำลังเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคอีสาน ประกอบกับปีนี้ครบ10 ปี ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ประชาชนจึงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่ต้องรับมวลน้ำจากภาคเหนือก่อนระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยประกอบกับปัจจัยน้ำทะเลหนุนสูงอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่

นายฐิติกร ศรีนิติวรวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสมุทรปราการ เปิดเผยมาตรการป้องกันปัจจัยเสี่ยงทั้งสองที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมว่า จังหวัดสมุทรปราการมีโครงการชลประทาน 3 แห่งคือ โครงการชลประทานสมุทรปราการ, โครงการชลหารพิจิตร และโครงการพระองค์ไชยานุชิต ที่จะทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน โดยโครงการชลประทานสมุทรปราการรับผิดชอบนอกเขตชลประทานและประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ โดยหลักการแล้วหากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำบางไทเกิน 1,000 ลบ.ม./วินาที ก็จะเริ่มเปิดบานระบายเพื่อผันน้ำ ซึ่งจะช่วยยลระยะเวลาออกสู่ทะเลเร็วขึ้น แต่จากการประเมินสถานีวัดน้ำบางไท ซึ่งรับน้ำได้สูงสุด3,500 ลบ.ม./วินาที โดยตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 2,000 ลบ.ม./วินาที หากเทียบกับปี 2554 วัดได้สูงสุด 3,800 ลบ.ม./วินาที ซึ่งยังห่างอีกมาก จากการประเมินคาดว่าโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมกับปี54 ไม่น่าเป็นไปได้ หากไม่มีพายุอะไรเข้ามา มั่นใจว่าสามารถผันน้ำได้และเอาอยู่ไม่เท่าปี2554แน่นอน

ที่ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดบานระบายน้ำทุกบานอยู่ 6 เมตร และหากมีมวลน้ำเหนือลงมาสมทบก็สามารถยกบานประตูได้อีก ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ในตอนนี้ยังมั่นใจว่ารับมือได้ ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำจังหวัดสมุทรปราการที่มักจะเกิดน้ำท่วมขังหากฝนตกหนักติดต่อกัน เช่นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ทางชลประทานจังหวัดมีคลองชายทะเลมีประตูระบายน้ำประมาณ9แห่ง เพื่อช่วยผันน้ำออกสู่ทะเลๆและมีโรงสูบน้ำสุวรรณภูมิที่มีเครื่องสูบน้ำ4เครื่อง สามารถระบายน้ำได้สูงสุด100 ลบ.ม.ต่อวินาทีจะช่วยพื้นที่สำโรงและพื้นที่เชื่อมต่อได้

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube