29 ปีพฤษภา35 ถึง 7 ปี รัฐประหารคสช.
17พฤษภาคมครบรอบเริ่มต้นเหตุการณ์ “พฤษภาเลือดปี35” ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ รสช. ที่มี พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกฯผ่านมาแล้ว29ปี การเมืองไทย ยังไม่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่กับการชุมนุมประท้วง ข้อเรียกร้องเดิมๆ “ประชาธิปไตย” และมีการปฏิวัติ รัฐประหาร ถึง2 ครั้ง2 คราในปี49 และ57 ซึ่งเป็นต้นเหตุฉุดรั้งการพัฒนา ให้ย่ำอยู่กับที่ของสังคมไทย แถมตัวละครก็ยังเชื่อมโยงกับกลุ่มเดิมๆ หน้าเดิมๆ แค่ปรับบทบาทไปตามกาลเวลา
โดยวงล้อการเมืองพฤษภาคม 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ยึดอำนาจเมื่อ7ปีก่อน ถูกกล่าวหาสืบทอดอำนาจ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.ที่ “มีชัย ฤชุพันธ์”เขียนไว้แยบยลกว่าเดิม ใช้กลสภาที่ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริงคือ ส.ว.มาโหวตนายกฯวางแผนให้ได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป,บริหารงานล้มเหลว ขาดธรรมาภิบาลจากกลุ่ม“ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ที่มี จตุพร พรหมพันธ์ หนึ่งในนักศึกษาเมื่อ29ปีก่อน กับ “พิภพ ธงชัย-“วีระ สมความคิด ภาคประชาชนเมื่อครั้งนั้น และอดุลย์ เขียวบริบูรณ์”ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35เป็นแกนนำ จัดปราศรัยออนไลน์ ขับไล่ ร่วมกับนักเคลื่อนไหว จากภาคส่วนต่างๆทั้ง เหลือง แดง และส้ม ซึ่งล้วนมีภูมิหลังเกี่ยวพันเดือนพฤษภา ทั้ง 29 ปี และ 7 ปีก่อน อยู่ทุกสัปดาห์ โดยมีจุดร่วมคือ พล.อ.ประยุทธ์ ตระบัดสัตย์ต่อประชาชนต้องพ้นไป เหมือนสมัย พล.อ.สุจินดา
แม้สถานการณ์ในเวลานี้จะไม่ต่างจาก 29 ปีก่อนมากนัก ในทางการเมืองเดิม เคยมีพรรคฝ่ายเทพ คือฝ่ายคัดค้านไม่สนับสนุน พล.อ.สุจินดา 4 พรรค”ประชาธิปัตย์-ความหวังใหม่-พลังธรรม และเอกภาพ” และพรรคมาร ที่หนุนหลังสืบทอดอำนาจของ รสช.ในเวลานั้น”สามัคคีธรรม-ชาติไทย-กิจสังคม-ประชากรไทยและ” ราษฎร ซึ่งสอดรับกับในสภาขณะนี้ ก็มี 2 ฝ่ายชัดเจนเช่นกัน คือเอา และ ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ส่วนจะเรียกใครว่าเทพ หรือมาร หรือครึ่งๆ กลางๆ ก็ดูกันเอาเองโดยมีมวลชนคอยขับเคลื่อนกดดันอยู่ภายนอก
ซึ่งความต่างของครั้งนั้น กับปัจจุบันก็มีแค่ รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ มีสายป่านค่อนข้างยาวไกลกว่ารุ่นพี่ วางกำลังวางคนของตัวเองไว้ทุกหน่วยงานของรัฐ ทำให้ยังคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ จึงยังสามารถยืนหยัดอยู่ในระบบได้ และมีมวลชนคอยปกป้องด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในความล้มเหลวของการบริหารประเทศ ที่ฝ่ายค้าน และฝ่ายม็อบกล่าวหามาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19กลับเป็นคุณยังช่วยหนุนรัฐบาล เพราะสามารถใช้เป็นข้ออ้างสกัดม็อบกีดกันผู้ชุมนุมไม่รวมตัวกัน จนกลายเป็นชุมนุมใหญ่ตามท้องถนนเหมือนในอดีตได้ และอาจเป็นอาวุธสุดท้ายที่ใช้ยื้อเวลาให้ผ่านช่วงรอยอดีตที่ฝังใจ เพื่อไม่ให้วงล้อการเมืองเดือนพฤษภาคม ที่เคยมีทั้งนองเลือด และรัฐประหาร กลับมาซ้ำรอยเมื่อ29ปี หรือ7ปีก่อนได้อีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
