fbpx
Home
|
คลิปข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวต้นชั่วโมง 18.00 น.

“พล.ต.อ.วิสนุ” จเรตำรวจแห่งชาติ ถกเครียด ปมเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ “บอส” ชี้ “พล.ต.อ.สมยศ” ทำหนังสือให้การเพียงพอแล้ว ไล่สอบอัยการ-สส.ก้าวไกลต่อ

 

 

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี พบว่ามีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับการจัดให้ รศ.สายประสิทธิ เกิดนิยม พบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขความเร็วรถยนต์ในคดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีขับรถยนต์ชนตำรวจเสียชีวิต เป็นเหตุผลให้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ โดยที่ประชุมมีการติดตามความคืบหน้าในการขอสอบปากคำ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศได้ส่งคำให้การเป็นเอกสารมายังคณะกรรมการแล้ว ยืนยันว่า ได้เดินทางไปพบกับ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน และยอมรับว่าได้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ รศ.สายประสิทธิ์ พบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ประมาณเกือบ 30 นาที แต่ไม่ได้กดดัน บังคับหรือชักจูงให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ และยอมรับว่าเสียงในคลิปที่ใช้เป็นหลักฐาน เป็นเสียงของตนจริง

 

โดย พล.ต.อ.สมยศ ให้การโดยพยายามชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ ไม่มีใครจะบังคับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ได้ และผู้ที่จะได้ประโยชน์นั้น ก็คือฝ่ายทนายความของผู้ต้องหา ซึ่งคณะกรรมการได้มีการถกกันในประเด็นนี้ และลงมติว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้ให้ข้อมูลมาเพียงพอแล้ว ส่วนอัยการท่านหนึ่ง ที่มีข้อมูลพาดพิงว่าอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยนั้น จะมีการทำหนังสือเชิญมาให้ปากคำอีกครั้ง

 

ส่วนที่มีหลักฐานบางส่วนเกี่ยวพันไปถึง พ.ต.ต.ชวลิต ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นอดีตตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่เคยร่วมทำคดีนี้ ก็จะเชิญมาให้ปากคำด้วย โดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวภายหลังการประชุมเพียงสั้นๆว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา โดยหากมีข้อมูลพาดพิงไปถึงใครก็จะต้องเชิญมาสอบทุกราย เพื่อให้ได้ความจริงและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube