fbpx
Home
|
คลิปข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวต้นชั่วโมง 16.00 น.

สธ. ชี้ เริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน 4 ตุลานี้ เผยยังไม่ฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

นพ. เฉวตรสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงการณ์อัปเดทสถานการณ์วัคซีนโควิด19 และการฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียน ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด19 หลังจากการปรับปรุงฐานข้อมูล มีการบันทึกข้อมูลเพิ่มขึ้น 1,700,523 โดส รวมกับผลการฉีดวัคซีนในวันนี้ 588,205 โดส รวม 2,288,728 โดส ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีผู้ได้รับวัคซีน 1 เข็ม คิดเป็นร้อยละ 45.2 และผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม คิดเป็นร้อยละ 27.5 โดยภาพรวมการฉีดวัคซีนทั้งประเทศอยู่ที่ร้อยละ 45.2

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนในนักเรียน จะไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยวัคซีนที่ใช้จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ เท่านั้น โดยระบุว่าฉีดสองเข็ม ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ซึ่งจะมีการเริ่มฉีดในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม และคาดว่าอาจจะฉีดเข็มสองภายในระยะเวลาไม่เกินสัปดาห์ที่ 4 หลังจากฉีดเข็มแรก โดยจะพิจารณาตามแต่ละพื้นที่ต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเปิดเรียน และยังไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ ภายหลังการฉีดได้มีระบบการเฝ้าระวังหลังฉีดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ โดยมีระบบการติดตามอาการ โดยผ่านไลน์แอปพลิเคชั่นหมอพร้อมเช่นเดียวกับในการฉีดวัคซีนของผู้ใหญ่ โดยแจ้งเตือนอาการไม่พึงประสงค์ในระยะเวลา 7 วัน และ 30 วัน เช่นเดียวกัน

โดยอาการเฝ้าระวังสำหรับนักเรียน หลังจากฉีดวัคซีนอาจมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อยง่าย ใจสั่น แน่นหน้าอก และหมดสติ

สำหรับกรณีเด็กชายอายุ 12 ปี ที่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนในวันที่ 13 สิงหาคม หลังจากได้รับวัคซีนในวันที่ 24 กรกฏาคมนั้น ไม่ได้มีสาเหตุจากวัคซีนแต่อย่างใด โดยเด็กชายมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ซึ่งสันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานเรื้อรัง

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา อายุต่ำกว่า 12 ปีนั้น ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการฉีดวัคซีนให้ แต่เน้นย้ำให้ดูแลป้องกันตนเองโดยการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube