Home
|
ข่าว

โปโลน้ำสาวไทยชิงดำสิงคโปร์ 22 มิ.ย.นี้

Featured Image
โปโลน้ำสาวไทยชิงดำสิงคโปร์ 22 มิ.ย.นี้  ด้าน “โค้ชมุก” สโรชา ริ้วรุจิเรข โวยกรรมการตัดสินค้านสายตาอื้อ

 

 

การแข่งขันมหกรรมกีฬาทางน้ำเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 47 รายการ “ซี อควอติกส์ เอจกรุ๊ป แชมเปี้ยนชิพ 2025” (47th SEA Aquatics Age Group Championships 2025) ระหว่างวันที่ 19-29 มิ.ย.268 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมี 4 กีฬา คือ ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ และ ว่ายน้ำลีลา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2568 เป็นการแข่งขันโปโลน้ำวันที่สาม ที่ OCBC Aquatic Centre

 

เกมนี้เป็นนัดสุดท้ายของรอบแรก โดยสาวไทยดีกรีแชมป์เก่า 2 สมัยติดต่อกัน ทำสถิติชนะรวด 2 นัดเก็บ 6 คะแนนเต็ม ลงสนามพบกับ อินโดนีเซีย ที่ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน ซึ่ง ไทย การันตีเข้ารอบชิงชนะเลิศแล้ว และคาดว่าจะเจอกับ สิงคโปร์ อย่างไรก็ตามในเกมนี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันส่งกรรมการสิงคโปร์มาตัดสินเกม

 

 

ด้าน “โค้ชมุก” สโรชา ริ้วรุจิเรข หัวหน้าผู้ฝึกสอน ตัดสินใจพัก ภัณฑิลา อาสายุทธ์ ผู้รักษาประตูมือ 1 แล้วส่ง ภัทรพีร ศรีดี ผู้รักษาประตูมือ 2 ลงทำหน้าที่เฝ้าเสาแทน ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆก็มีการหมุนเวียนเอาดาวรุ่งลงไปเล่นมากขึ้นเพื่อหาประสบการณ์ แม้ว่าจะมีการโรเตชั่นผู้เล่นในเกมนี้ แต่ศักยภาพสาวไทยก็ยังเหนือกว่า อินโดนีเซีย ครองเกมบุกอย่างต่อเนื่องจนเอาชนะไป 26-12 ทำให้จบรอบแรก 3 นัด ไทยเก็บ 9 คะแนนเต็มเข้าไปชิงชนะเลิศในฐานะทีมอันดับ 1 ของตาราง พบกับ สิงคโปร์ ทีมอันดับ 2 ของตาราง ในวันที่ 22 มิ.ย.เวลา 10.00 น.(ตามเวลาไทย)

 

 

หลังเกม “โค้ชมุก” สโรชา ริ้วรุจิเรข หัวหน้าผู้ฝึกสอน เปิดเผยว่า วันนี้เราให้โอกาสบรรดาดาวรุ่งลงไปเล่นมากกว่าผู้เล่นตัวหลัก เพื่อเป็นการฝึกน้องๆไปด้วยในเกมนี้ ส่วนอาการบาดเจ็บของ ภัณฑิลา อาสายุทธ์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ก็ไม่ได้ร้ายแรง เพียงแค่อยากให้น้องได้พักในเกมวันนี้ และยังเป็นการกระตุ้นผู้รักษาประตูมือ 2 ด้วย เพราะในอนาคตเขาจะต้องขึ้นมาเป็นผู้นำในแนวรับให้ได้ ซึ่งเกมรอบชิงชนะเลิศนักกีฬาทุกคนมีความพร้อมเป็นอย่างมากและจะต้องป้องกันแชมป์ให้ได้

 

 

ขณะที่ในเรื่องการจัดผู้ตัดสินลงทำหน้าที่ในเกมของไทยตั้งแต่แมตช์แรกจนถึงแมตช์สุดท้ายของรอบแรก จนมีประเด็นที่ใช้กรรมการสิงคโปร์ตัดสินเกมไทยกับอินโดนีเซีย ซึ่ง สิงคโปร์ จะเป็นคู่ชิงชนะเลิศกับ ไทย ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ โดย “โค้ชมุก” ที่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ก่อนแข่งได้ให้ความเห็นว่า เขาทำแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ที่ตนเป็นนักกีฬา ปัจจุบันนี้เขาก็ยังทำอยู่ ซึ่งทีมเราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่ใช่หน้าที่เรา แต่กลับเป็นหน้าที่ของกรรมการฝ่ายไทยที่ส่งมาร่วมทำหน้าที่ไม่ไปจัดการหรือท้วงติงให้กับเรา

 

 

“ดังจะเห็นในวันนี้ที่ทีมเราโดนจับฟาวล์เยอะมาก ทั้งๆที่รูปเกมไม่ได้มีอะไร และทุกจังหวะในวันนี้นักกีฬาเราต้องทำให้เคลียร์ 100% แต่เมื่อไรที่เราทำเพียง 80% ก็จะโดนจับผิดทันที ซึ่งตามธรรมชาติของกีฬาจะมีนิดหน่อยเป็นไปตามจังหวะเกม แต่เรานิดหน่อยไม่ได้ ผิดกับเขาที่ทำได้ มันก็อยู่ที่ดุลยพินิจของผู้ตัดสิน และเชื่อว่าในรอบชิงชนะเลิศกับสิงคโปร์ ก็จะมีแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน” สโรชา กล่าว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube