fbpx
Home
|
ข่าว

เอาฤกษ์เอาชัย! ”ปืน” เเม่นเป้าดับ ”เรือ” 4-1 ซิวคอมมูนิตี้ ชิลด์

Featured Image
อาร์เซน่อล แม่นเป้ากว่าชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเริ่มต้นซีซั่นใหม่

 

 

ศึกฟุตบอล คอมมูนิตี้ชิลด์ ศึกชิงโล่การกุศลก่อนเปิดลีก เป็นการเจอกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทริปเปิ้ลเเชมป์กับ อาร์เซน่อล รองเเชมป์ลีก

 

เกมนี้ทีมปืนใหญ่ประเดิมส่ง 3 เเข้งใหม่ จูเลี่ยน ทิมเบอร์, เดแคลน ไรซ์ เเละ ไค ฮาแวร์ตซ์ เเต่จะไม่มี กาเบรียล เชซุส กองหน้า ที่เจ็บเข้าผ่าตัดไปเเล้ว ด้านทีมเรือใบสีฟ้าประเดิมส่ง มาเตโอ โควาซิช กองกลางตัวใหม่ลงเล่นเช่นกัน โดยพัก เควิน เดอ บรอยน์ เเต่ยังทิ้ง เออร์ลิ่ง ฮาเเลนด์ เป็นหน้าเป้า

 

เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า ไม่มี กาเบรี่ยล เชซุส หน้าเป้าที่เจ็บต้องพัก 2-3 สัปดาห์ ทำให้โอกาสเป็นของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ยืนแทน ดีแคลน ไรท์ นักเตะอังกฤษค่าตัวแพงสุดสหราชอาณาจักร ได้ลงเชื่อมเกมแดนกลาง

 

ด้าน เป๊ป กวาดิโอล่า นายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” ใส่ชื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เจ็บตั้งแต่นัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมาเป็นสำรอง ส่วน มาเตโอ โควาซิช แข้งใหม่ได้สตาร์ตแดนกลาง โดยมี เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยืนหน้าเป้า

 

นาทีที่ 14 แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสลุ้นใกล้เคียงที่สุด เป็นจังหวะที่ โรดรี้ กดด้วยขวาบอลแฉลบ ดีแคลน ไรท์ หลุดเสาออกไปนิดเดียว ได้เพียงเตะมุมเท่านั้น

 

นาทีที่ 25 อาร์เซน่อล มีโอกาสลุ้นขึ้นนำเหมือนกัน เป็นจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้หมุนตัวยิงแต่ สเตฟาน ออร์เตก้า ยังใช้ขาเซฟเอาไว้ ได้จากนั้น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ มาตามซ้ำ แต่ จอห์น สโตนส์ ก็ยังบล็อกเอาไว้ได้

 

เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แทบยังไม่มีโอกาสได้ง้างยิงให้ ซิตี้ เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

 

นาทีที่ 40 อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะ ที่ บูคาโย่ ซาก้า พาบอลมาสุดเส้นทางขวา ก่อนตบมาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ทว่าหอกเยอรมัน ยิงไปติดเซฟ สเตฟาน ออร์เตก้า

 

 

นาทีที่ 43 โรดรี้ เห็น อารอน แรมส์เดล ออกมาจากปากประตูเยอะลองลักไก่ยิงจากกลางวงกลมกลางสนาม ดีที่ลูกตกช้าตกข้ามคานไป

 

 

จากนั้นไม่มีจังหวะหวาดเสียว จบ 45 นาทีแรกเกมยังเสมอ 0-0

 

 

ครึ่งหลัง นาที 52 จอห์น สโตน ได้ลุ้นโหม่งเน้นๆ ให้ แมนฯ ซิตี้ แต่ อารอน แรมส์เดล ยังปัดเอาไว้ได้

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีการขยับผู้เล่นที่ม้านั่งสำรองก่อน โดยส่ง ฟิล โฟเด้น ลงมาแทน แจ็ค กรีลิช ที่เล่นไม่ออกในนาที 58

 

 

นาทีที่ 64 เป๊ป กวาดิโอล่า ตัดสินใจถอด เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ออกและส่ง โคล พัลเมอร์ ไปแทน รวมถึง ส่ง เควิน เดอ บรอยน์ ลงไปแทน มาเตโอ โควาซิช

 

 

นาทีที่ 77 กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก โคล พัลเมอร์ ที่กดด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบเสาสองเข้าไป

 

 

นาที 82 แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้ประตูที่ 2 เมื่อ ฟิล โฟเด้น ยิงไปติดเซฟของ อารอน แรมส์เดล

 

 

เข้าสู้ช่วงทดเจ็บ 8 นาที ซึ่งทดเจ็บเหมือนฟุตบอลโลก 2022 อาร์เซน่อล พยายามบุกเพื่อหวังตีเสมอ ไปลุ้นต่อในการดวลจุดโทษ และก็มาทำได้ในนาทีที่ 100+1 จาก เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ยิงแฉลบ มานูเอล อคานยี เปลี่ยนทางเข้าไป อาร์เซน่อล ตีเสมอ 1-1 และก็จบเกมทำให้ต้องทำการหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ

 

 

การดวลจุดโทษ ปรากฏว่าเป็นทางด้าน อาร์เซน่อล ที่แม่นกว่าชนะไป 4-1 ทำให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 17 ส่วน แมนฯ ซิตี้ ผิดหวังรายการนี้ 3 ปีติดต่อกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube