fbpx
Home
|
ข่าว

NSDF แจงยิบ ประเด็น ตัดงบ-ความโปร่งใส-เงินค้างท่อ

Featured Image
“ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ” แจงละเอียดยิบ ประเด็นดราม่า ตัดงบสมาคมกีฬา-ความโปร่งใส-เงินค้างท่อ ชั้นตอนการเบิกจ่าย ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ กกท. เป็นผู้พิจารณา

 

 

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ชี้แจงขั้นตอนระเบียบการนขอเงินสนับสนุนกีฬา และการ เบิกจ่ายายตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เรื่องการส่งเสริม หรือการสนับสนุนงบประมาณ พ.ศ.2563 ของสมาคมกีฬาต่างๆ ทั้งสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย

 

จำแนกเป็น 4 ประเด็น ความรวดเร็ว-ความโปร่งใส-ความเหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณ-เงินค้างท่อ โดยกระบวนการยื่นของบ และการเบิกจ่ายจะขึ้นอยู่ที่ การกีฬาแน่งประเทศไทย (กกท.) เป็นผู้พิจารณา ซึ่งเป็นต้นเหตุของ คอขวด ที่ทำให้เกิดความล่าช้า เงินค้างท่อ และการตัตงบสมาคมกีฬาต่างๆ

 

-ความรวดเร็ว – สมาคมกีฬา ยื่นขอรับงบผ่าน กกท. เป็นผู้กลั่นกรองและพิจารณา

ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เปิดเผยว่า ประเด็นแรกเรื่อง “การยื่นขอเงินสนับสนุนกีฬา” ซึ่งก่อนต้นปีงบประมาณ ทางสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และสมาคมกีฬแห่งประเทศไทย รวมถึงสมาคม สโมสรกีฬาต่างๆ จะส่งโครงการ และงบประมาณที่จะขอรับ การสนับสนุนไปที่ การกีฬแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีคณะกรรมการพิจารณา กลั่นกรองรวบรวมคำขอรับงบประมาณส่งเสริม สนับสนุนจากสมาคมกีฬาต่างๆ ก่อน โดยกระบวนการนี้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลา การเดินทางของเอกสาร, เอกสารไม่ครบ, เอกสารไม่ถูกต้อง,บางโครงการขอมาผิดวัตถุประสงค์ ฯลฯ สุดท้ายโครงการต่าง จะตกค้างอยู่ที่ กกท.

 

-ผู้จัดการกองทุนฯ ไม่มีอำนาจ ในการเซ็นเบิก-จ่าย งบประมาณ

ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวว่า ประเด็นต่อมาเรื่อง “ความโปร่งใส่” ซึ่งกระบวนการ เริ่มตั้งเต่การของบ จนจบที่การเบิก-จ่าย จะมีคณะกรรมการกลั่นกรองทุกขั้นตอน โดยเริ่มจากที่ กกท. กลั่นกรองแล้ว ส่งต่อนาที
กองทุนฯ และส่งไปที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ด้านการพัฒนากีฬา และคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพื่อพิจารณา โดยปกติทุกอย่างกลั่นกรองมาแล้ว เข้าเกณฑ์ และข้อมูลชัดเจน บอร์ดกองทุนฯ ก็จะ
อนุมัติ หลังจากอนุมัติแล้ว ผู้ส่งคำขอ หรือเจ้าของโครงการ จะมาเซ็น MOU กับกองทุนฯ ส่วนการเบิก-จ่าย จะเป็นหน้าที่ของคลังก่องทุนฯ ( คลังกองทุนฯ คือ ฝ่ายการเงิน ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ กกท. เพื่อ
เบิกจ่ายเงินกองทุนฯ) โดยผู้ว่าฯ กกท. เป็นผู้มีอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ข้อ 52 ในการทำเบิก-จ่าย ส่งไปยังคลังกองทุนฯ โดยที่ ผู้จัดการกองทุนฯ “ไม่มีอำนาจ” ในการ เบิก-จ่าย

“กกท. จะเป็นผู้รับคำยื่นของบประมาณจากสมาคมกีฬา และกลั่นกรองพิจารณา ก่อนส่งต่อมาที่กองทุนฯ พร้อมกับเป็นผู้รับผิดชอบการเบิก-จ่าย งบประมาณ ดังนั้นกรณีความล่าช้า เงินค้างท่อและโดนตัดงบต่างๆ เป็นการพิจารณาตามความเหมาะสมของ กกท.”

 

– ความโปร่งใส – กองทุนฯ ยื่นมือเข้ามาช่วยลดขั้นตอนการเบิกจ่ายแก้ปัญหา “เงินค้างท่อ”

สำหรับการยื่นคำของบ ผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ กองทุนฯ เพิ่งพัฒนาและจัดอบรมไปนั้น เป็นขานรับนโยบายบอร์ดกองทุน เพื่อช่วยแก้ปัญหาเงินค้างท่อ อำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน รวดเร็ว
ตรวจสอบ และติดตามได้ โดยสมาคมกีฬาที่ยื่นของบเข้ามา ระบบข้อมูลจะถูกสงเข้าไป กกท, ก่อน เพื่อให้พิจารณา ตรวจสอบ และกลั่นกรอง

 

ส่วนกองทุนฯ จะรับคำขอตรงเฉพาะเรื่องทุนการศึกษา สวัสดิการ และเงินรางวัล ตามมาตรา 42(4) (5) (6) ของ พ.ร.บ. กกท. พ.ศ.2558 โดยมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านสวัสดิการกีฬา ก่อนเสนอต่อบอร์ดกองทุนฯ เป็นผู้อนุมัติ”

-กองทุนฯ ไม่มีอำนาจในการตัดงบประมาณสมาคมกีฬา ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกท. ในการจัดสรรงบประมาณ

ดร.สุปราณี กล่าวอีกว่า ประเด็นเรื่อง “การตัดงบประมาณของสมาคม” ปัจจุบันมีสมาคมกีฬาจังหวัด 77 แห่ง และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 89 แห่ง โดยรวมแล้วสมาคมกีฬาต่างๆ ทั้งหมด ยื่นของบสนับสนุนต่อ กกท. รวมกันมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ในความเป็นจริง งบประมาณมีเพียง 4พันกว่าล้านบาท จึงต้องดูตามความเหมาะสม

 

ดังนั้น ทางกองทุนฯ จึงต้องทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้เห็นกรอบงบประมาณในปีดังกล่าว หลังจากสรุปกรอบงบประมาณได้ที่ 4 พันล้านบาท กองทุนฯ จะแจ้งกลับไปที่ กกท. จากนั้นเป็นหน้าที่ของ กกท. ที่จะต้องเขย่าทุกโครงการให้ยอดงบประมาณลดลงมาตามกรอบวงเงินที่กองทุนฯ มี ซึ่งการลดงบประมาณ และตัดงบประมาณ ขึ้นอยู่ที่ กกท. พิจารณาดามเกณฑ์ว่าจะจัดสรรงบประมาณให้กับสมาคมกีใาต่างๆ เท่าไหร่ ซึ่งทางกองทุนฯ ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย

 

 

ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ประเด็นสุดท้ายเรื่อง “เงินค้างท่อ” ซึ่งภายหลังจากที่บอร์ดกองทุนฯอนุมัติไปแล้ว เงินงบประมาณจะไปค้างอยู่ที่คลังกองทุนฯโดยผลการเปิกจ่ายภาระผุกพันปี 2565ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 4,032 ล้านบาท จำแนกเป็น อนุมัติเเล้วยังไม่ได้เบิกจ่าย 69เปอร์เซ็นต์ และเบิกจ่าย ตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 จำนวน 31 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลการเบิกจ่ายงบประมาณ 2566 ที่อนุมัติแล้ว ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำาแนกเป็น อนุมัติแล้วยังไม่ได้เบิกจาย 76เปอร์เซ็นต์ และเบิกจ่ายตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 จำนวน 24 เปอร์เซ็นด์

 

“อยากจะชี้ให้สมาคมกีฬาต่างๆ ทั้งสมาคมกีฬาจังหวัด และแห่งประเทศไทย เข้าใจถึงขบวนการขั้นตอนเบิก-จ่าย งบประมาณ ทุกอย่างจะถูกพิจารณาผ่าน กกท,โดยเริ่มตั้งแต่การยื่นขอรับงบสนับสนุนกลั่นกรอง และตัดสินใจ ยืนต่อให้กองทุนฯโดย กกท. ฝ่ายที่รับผิดชอบ รวมทั้งโครงการที่ได้รับเงิน สนับสนุน การยื่นเบิก-จ่าย จะเป็นหน้าที่ของคลังกองทุนฯ ( คลังกองทุนฯ คือ ฝ่ายการเงิน ภายใต้การกำกับของ กกท. เพื่อเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ) โดยผู้ว่าฯ กกท. เป็นผู้มีอำนาจตาม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ข้อ 52 ในการทำเบิก-จ่าย ส่งไปยังคลังกองทุนฯ โดยที่ ผู้จัดการกองทุนฯ “ไม่มีอำนาจ” ในการ เบิก-จ่าย ” ดร.สุปราณี กล่าวปิดท้าย

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube