AFC Coaching Convention หรือโครงการภาคีผู้ฝึกสอน รับรองประเทศไทยเป็นสมาชิกในระดับ A Level
AFC Coaching Convention หรือโครงการภาคีผู้ฝึกสอนของ AFC เป็นโครงการที่ AFC มีขึ้นเพื่อยกระดับการอบรมผู้ฝึกสอนของแต่ละประเทศสมาชิกใน AFC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศสมาชิกจัดหลักสูตรอบรมผู้ฝึกสอนได้ตามมาตรฐานที่ AFC กำหนด รวมทั้งสามารถเปิดคอร์สจัดอบรมผู้ฝึกสอนโดยใช้วิทยากรของชาติสมาชิกเองได้
AFC Coaching Convention แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน จากระดับล่างสุดไปสูงสุด ได้แก่
1. ระดับ B Level 2. ระดับ A Level 3. ระดับ Pro Level โดยประเทศไทยได้รับการรับรองเป็นสมาชิกของ AFC Coaching Convention ในระดับ A Level ในเดือนธันวาคม 2565
ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการได้รับรองเป็นสมาชิกของ AFC Coaching Convention ในระดับ A Level คือ
1. เป็นการยืนยันหลักสูตรอบรมผู้ฝึกสอนของสมาคมฯ ได้มาตรฐานตามที่ AFC กำหนด สามารถออกใบอนุญาตผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองระดับนานาชาติ
2. สมาคมฯ สามารถเปิดคอร์สจัดอบรมผู้ฝึกสอนโดยใช้วิทยากรชาวไทยได้ ต่างจากเดิมที่ต้องใช้วิทยากรจากต่างประเทศที่ทาง AFC ส่งมา ซึ่งจะทำให้สมาคมฯสามารถเปิดคอร์สจัดอบรมผู้ฝึกสอนได้บ่อยครั้งกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะการอบรมผู้ฝึกสอนในระดับ AFC A Diploma ที่แต่เดิมประเทศไทยต้องใช้วิทยากรหลักจากทาง AFC ในการอบรมผู้ฝึกสอนชาวไทย แต่จากนี้ไปประเทศไทยจะสามารถใช้วิทยากรหลักชาวไทยของทางสมาคมฯในการอบรมผู้ฝึกสอนได้แล้ว
3. สมาคมฯสามารถปรับปรุงและออกแบบหลักสูตรการสอนได้เอง ซึ่งจะทำให้หลักสูตรต่างๆมีความเหมาะสมกับการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลของไทย
4. สมาคมฯสามารถขออนุมัติ AFC ในการจัดคอร์สอบรมพิเศษได้ เช่น คอร์สอบรมหลักสูตรเร่งรัดสำหรับนักฟุตบอลอาชีพที่สนใจ และต้องการเป็นผู้ฝึกสอน โดยไม่ต้องผ่านคอร์สเริ่มต้น (fast track)
โดยตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ นำโดย มร.การ์เลส โรมาโกซ่า ผู้อำนวยการเทคนิค ได้วางแผนพัฒนาโครงสร้างฝ่ายฝึกอบรมผู้ฝึกสอนของสมาคมฯ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับการรับรองใน AFC Coaching Convention ในระดับ A Level ซึ่งจำเป็นต้องได้มาตรฐานตามที่ AFC ต้องการ เช่น
1. หลักสูตรที่ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ ให้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนการสอน เป็นแบบเฉพาะสำหรับประเทศไทย
2. ยกระดับวิทยากรการอบรมผู้ฝึกสอนของทางสมาคมฯ ให้มีจำนวนมากพอทั้งในเรื่องของปริมาณและคุณภาพ
3. ปรับปรุงหลักสูตรการอบรมผู้ฝึกสอนในทุกระดับ เพื่อมุ่งเน้นคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของผู้ฝึกสอน โดยการจัดระเบียบโครงสร้างการอบรมในทุกหลักสูตร
โดยช่วงระหว่างวันที่ 19 – 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565 Mr. Wim Koevermans – Deputy Technical Director / Head of Coach Education(AFC) และ Mr Narayanan Nair Sivaji – AFC Coach education Panel Member(Singapore) ผู้แทนจากเอเอฟซี ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อประเมินการจัดอบรมหลักสูตร AFC A Diploma เพื่อประกอบการพิจารณารับรองเป็นสมาชิกของ AFC Coaching Convention ในระดับ A Level ก่อนที่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะได้รับการรับรองดังกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวถึงการที่ประเทศไทยได้รับการรับรองเป็นสมาชิกของ AFC Coaching Convention ในระดับ A Level ว่า “การที่ไทยได้รับการรับรองจาก AFC ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งของทางสมาคมฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะผ่านเกณฑ์ของ AFC Coaching Convention นี้ให้ได้ และรู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะต้องใช้เวลาหลายปี
จึงได้วางแผนและทำงานกันอย่างหนักจนได้ผลสำเร็จ ซึ่งการได้รับรองให้เข้าร่วมโครงการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของวิทยากรและหลักสูตรการเรียนการสอนผู้ฝึกสอนฟุตบอลภายในประเทศ ว่าได้มาตรฐานสากลและเทียบเท่ามาตรฐานของทาง AFC และจากนี้ไปสมาคมฯจะสามารถเปิดคอร์สอบรมผู้ฝึกสอนในระดับ AFC A Diploma โดยใช้วิทยากรชาวไทยและหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นเฉพาะและเหมาะสมกับผู้ฝึกสอนไทย สามารถทำได้บ่อยครั้งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนั่นหมายถึงจำนวนผู้ฝึกสอนที่จะมากขึ้นต่อไปอีกด้วย”
ขณะที่ มร.การ์เลส โรมาโกซ่า ผู้อำนวยการเทคนิคทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับการรับรองในระดับ A Level ของ AFC Coaching Convention สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯได้นำหลักสูตรการเรียนการสอนผู้ฝึกสอนฟุตบอลฉบับใหม่มาใช้อย่างจริงจังเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว
โดยในปัจจุบันทางสมาคมฯมีการปรับรูปแบบและวิธีการอบรมผู้ฝึกสอนให้มีความสนุกและเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ฝึกสอนมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวถือเป็นการปฏิวัติวิธีการเรียนรู้และเข้าใจศาสตร์ของฟุตบอลของผู้ฝึกสอน ซึ่งจะนำมาซึ่งรูปแบบเกมส์ฟุตบอลที่น่าสนใจ และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
