fbpx
Home
|
ข่าว

ช้างศึก ตบเท้ารายงานตัวตรวจโควิด-19

Featured Image
24 ขุนพลช้างศึก ตบเท้ารายงานตัวพร้อมตรวจโควิด-19 ขณะทาง มาโน่ เชื่อมั่นขุมกำลังดีพอที่จะคว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ2020

 

ทัพฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ เดินทางมารายงานตัว พร้อมตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด19 ที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ก่อนเข้าพักที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2020 ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 ที่ประเทศสิงคโปร์

การรายงานตัวครั้งนี้ นักกีฬาเข้ารายงานตัวจำนวน 24 คน ขาดเพียง 5 นักเตะที่ค้าแข้งอยู่ต่างประเทศ และ ฟิลิป โรลเลอร์ จะบินตามไปสมทบภายหลัง

โดยทีมชาติไทยมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อนักเตะทั้งหมด 3 คน ประกอบไปด้วย สุริยา สิงห์มุ้ย ที่มาแทนที่ พีระพัฒน์ โน็ตชัยยา, เจนภพ โพธิ์ขี ที่มาแทนที่ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ และ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ ที่มาแทนที่ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่ถอนตัวในครั้งนี้

ด้าน มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันแรก ในการเตรียมทีมสำหรับศึกอาเซียน คัพ หลังจากที่เราทำการวิเคราะห์ และตัดสินใจหลายอย่างในการเลือกนักเตะ หลังจากนี้เราก็ต้องมองหาวิธีทำให้ทุกคนเล่นร่วมกันได้อย่างลงตัว และตอนนี้ คือการเริ่มต้น ผมมีความสุขที่ได้อยู่ตรงนี้”

“เราวางแผนที่จะซ้อมสองวัน โดยเน้นที่เรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย หลังจากที่หลายคนเจอศึกหนักมาจากฟุตบอลลีก และหลังจากนั้นเราจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ โดยเราจะเริ่มทำงานหนัก และลงเรื่องของระบบ ตอนนี้ก็ถือว่าพร้อมแล้ว”

“การเปลี่ยนแปลงนักเตะ ผมมองว่าขุมกำลังชุดนี้ ต่างมีคุณภาพ และความแข็งแกร่ง เราต้องเชื่อมั่นทุกคนที่มาอยู่กับเรา”

“การขาดสองตัวหลักจากเจลีก อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน ที่ไม่น่าจะพร้อมสำหรับเกมแรกนั้น เรารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งสองคนสำคัญกับทีมของเรา และถือว่าเป็นตัวหลัก ผมเชื่อว่าในขณะที่นักเตะคนอื่นๆ เองก็กระหายที่จะลงสนาม และเชื่อว่าพวกเขาจะทดแทนได้ และเราจะพยายามทำเต็มที่เพื่อเก็บสามแต้มในเกมแรกให้ได้”

โดยทีมชาติไทย จะลงฝึกซ้อมทั้งหมด 2 ครั้ง ในประเทศก่อนที่จะเดินทางไปยัง ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2564

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube