Home
|
ข่าว

“หลิว จงอี้” พบ “ภูมิธรรม” พรุ่งนี้ เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

Featured Image

 

 

 

“หลิว จงอี้” พบ “ภูมิธรรม” 19 ก.พ. เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ย้ำ ตัดไฟฟ้า-น้ำมันต่อ แม้ “เมียนมา”วอนยกเลิก ให้สกัด อาชญากร ย้ายพื้นที่ อำนวยความสะดวก ส่งคนจีนกลับประเทศ

 

 

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้แทน มาต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหา คอลเซ็นเตอร์( Call Center ) การพบปะกับหน่วยในพื้นที่ ทำให้ทราบข้อขัดข้อง จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สนับสนุนการปฏิบัติ อย่างใกล้ชิด

 

 

สำหรับข้อเสนอที่ได้รับ โดยจะนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อไป ซึ่ง 19 ก.พ. จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีกครั้ง โดยการหารือ กับทาง นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทางจีนมีการเสนอแนะ 4 ข้อ คือ

 

 

1.เสริมสร้างกลไกไตรภาคี ภายใต้อำนาจอธิปไตยและกฎหมายและกฎหมายท้องถิ่น ในอนาคตอาจเพิ่มสมาชิก ขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมเตรียมความพร้อม และ ประชุมเป็นทางการ ตามที่ไทยกำหนด สาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมสนับสนุน

 

2.มาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ตและ น้ำมันเชื้อเพลิง เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขอให้ไทยดำเนินการต่อ แม้จะมีการเรียกร้องจากประเทศเมียนมาให้ยกเลิก

 

3.ให้การสกัดกั้น ควบคุม พื้นที่ไม่ให้อาชญากร หลบหนีหรือเคลื่อนย้ายไปพื้นที่อื่น

 

4.ให้ไทย ช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีน กำหนด Proof Of Concept ( PoC) ทั้ง ไทย จีน และเมียนมา โดยจีนจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ส่งไทยอำนวยความสะดวกตั้งแต่ชายแดน จนถึงสนามบินโดยการร้องขอกองกำลังทหารในการรักษาความปลอดภัย

 

 

พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า ทางเมียนมา ขอให้ไทยยกเลิกมาตรการ ตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน และอินเทอร์เน็ต เพราะจะทำให้ผู้ถูกควบคุมตัว ไม่ได้รับการดูแล แออัด อาจเกิดโรคระบาด นอกจากนี้ ประชาชนจังหวัดเมียวดีซึ่งมีกว่าหนึ่งแสนคนได้รับผลกระทบ รวมทั้งโรงพยาบาล ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชน ในการผ่าตัดได้ เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ล้วนแต่ต้องการใช้ไฟฟ้า และต่อไปในอนาคต จะให้ส่งกลับบุคคลผ่านช่องทางเมียนมาที่เป็นทางการเท่านั้น (ไม่ให้ชนกลุ่มน้อย/DKBA ส่งกลับเอง)

 

 

โดยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าว ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันแก้ปัญหา ไทยยินดีร่วมมือ เพราะได้รับผลกระทบอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และต้องการยุติปัญหาให้เร็วที่สุด รายละเอียดการปฏิบัติจะมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งระดับ ผู้ปฏิบัติ Poc ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด

 

 

ทั้งนี้ ข้อเสนอจาก จีน และ เมียนมา จะนำเรียนผู้มีอำนาจตกลงใจต่อไป ขอยืนยันว่า การส่งกลับคนจีน จะนำรูปแบบของปี 67 มาประยุกต์ใช้ แม้ว่าจะยังไม่มีศูนย์ประสานงาน แต่ในช่วงนี้ ขอให้ Poc ประสานงาน เพื่อให้การส่งกลับเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้จะประสานทางสถานเอกอัครราชทูต ที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากประเทศต่างๆ มารับตัวกลับ

 

 

โดยทางการจีนแจ้งว่าการรับคนจีนที่ผ่านแดนมาจากเมียนมาจะใช้เครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมา โดยสามารถรองรับได้วันละ 6 เที่ยวบิน โดยแต่ละเที่ยวบินจะมีคนจีนที่ถูกส่งตัวกลับ 50 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยจำนวน 100 นาย ขนคนกลับได้วันละไม่เกิน 300 คน

 

 

ทั้งนี้ ผู้ประสานงานฝ่ายจีนแจ้งให้ทราบว่า วันนี้ (17 ก.พ.68) สอท.จีนได้หารือกับ กระทรวงการต่างประเทศ แล้วในเรื่องการส่งกลับคนจีนซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 20 ก.พ.68 จำนวน 200 คน โดยสายการบิน Southern China ได้ประสานงานกับกองทัพอากาศแม่สอดเรียบร้อยแล้ว

 

 

ตามแนวทางการปฏิบัติของ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการแก้ปัญหาของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติและคอลเซ็นเตอร์รวมทั้งการพนันผิดกฎหมาย จากการที่มีการดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอก จากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในการปฎิบัติงานที่ผ่านมา จนมาถึงขั้นตอนกระบวนการ การนำพาสู่กลับประเทศต้นทาง การปฎิบัติงานได้รับการยอมรับและคำชมเชยจากสถานทูตของประเทศต่างๆ ทั้งประเทศอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา จีน เมียนมา และประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการดำเนินการด้วยความร่วมมืออย่างบูรณาการระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา และ จีน ซึ่งทำให้การร่วมกันแก้ไขปัญหาระดับนานาชาติ บรรลุผลสำเร็จไปได้ด้วยดี

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube