“เฉลิมชัย” เร่งแก้ปัญหาน้ำให้เกษตรกร มั่นใจหากเป็นไปตามแผนปีต่อๆ ไปไร้ปัญหาทั้งแล้ง-ท่วม เตรียมพร้อมเดินสายต่างประเทศเปิดตลาดสินค้าเกษตร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงภาพรวมกำลังการผลิตสินค้าเกษตรในประเทศ ว่า วันนี้เกษตรกรไทยได้ผ่านวิกฤตมาแล้วหลายเรื่อง ในส่วนของการขาดแคลนน้ำ ความแห้งแล้ง ทั้งในส่วนของน้ำท่วม เพราะฉะนั้นมาตรการที่ทางกระทรวงจะต้องดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา คือเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคต ซึ้งไม่สามารถตอบได้ว่าสถานการณ์จะมีอะไรเข้ามา แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นนโยบายที่ชัดเจน คือ เพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรด้วย นอกเหนือจากการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดทำหรับอาชีพเกษตรกรรม ถ้าหากมีน้ำจะสามารถบริหารจัดการอย่างอื่นได้ เพราะในส่วนของผลผลิตและการตลาด ทางกระทรวงได้ดำเนินการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ปรากฎผลที่ชัดเจนว่าสามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้า สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งไปต่างประเทศ และช่วยในเรื่องของ GDP ของประเทศได้ เพราะฉะนั้นหากมีการบริหารจัดการย้ำให้เป็นระบบก็จะสามารถแก้ไขปัญหาในภาคเกษตรกรรมได้ จึงได้มีการสั่งการไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในปีหน้าไม่ว่าน้ำจะมีมากหรือน้อย มาตรการต่างๆได้ถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามถึงมาตรการของทางกระทรวงที่ได้ดำเนินการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนภาคเกษตรกรรม นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่ทางกระทรวงได้ดำเนินการคืแได้มีการใช้ในส่วนของเทคโนโลยี นวัตกรรมและงานวิจัยต่างๆช่วยในการที่จะลดต้นทุน การปรับปรุงการผลิต แลพเพิ่มคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรที่จะออกมา เพราะฉะนั้นวันนี้เชื่อมั่นว่าสินค้าเกษตรที่ออกมาจะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัย เพราะฉะนั้นเมื่อสินค้ามีคุณภาพและปลอดภัยก็จะได้ราคาที่เพิ่มขึ้น ซึ้งก็จะต้องมองไปถึงตลาดต่างประเทศด้วยว่าจะทำอย่างไรที่จะทำผลักกันสินค้าไทยออกไปต่างประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่งคิดว่าหลังจากที่สามารถเดินทางติดต่อข้ามระหว่างประเทศได้ก็จะมีคณะทำงานเดินทางไปประเทศจีนเป็นประเทศแรก ซึ่งขณะนี้ก็มอบให้ฑูตเกษตรประสานงานกับทางการในส่วนของเงื่อนไขที่จะเจรจาเรียบร้อยแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
