fbpx
Home
|
ข่าว

“วิษณุ”รออุทธรณ์คดี”ยิ่งลักษณ์”ชะลอยึดทรัพย์

Featured Image
“วิษณุ” ยัน ยึดทรัพย์ “ยิ่งลักษณ์” ไม่เป็นปัญหา แต่ต้องหยุดไว้ก่อน หลังศาลเพิกถอนคำสั่งให้ชดเชยค่าสินไหมทดแทนจำนวน 35,000 ล้านบาท

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีฟ้องนายกรัฐมนตรี กรณีขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 35,000 ล้านบาท

จากเหตุขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ว่า ที่ผ่านมามีการยึดทรัพย์และขายทอดตลาดไปบางส่วน ซึ่งมูลค่าไม่ถึง 100 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการยึดทรัพย์ต่อ แต่เมื่อศาลมีคำสั่งมาดังกล่าว จึงต้องหยุดการยึดทรัพย์และยื่นอุธรณ์ต่อ

ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมามีการตัดสินคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้น และนายภูมิ สาระผล ที่มีการตัดสินคดีให้ยึดทรัพย์ โดยมีการยื่นอุทธรณ์ออกไป ศาลจะมีคำสั่งให้ยุติการยึดทรัพย์ออกไปก่อน เช่นเดียวกับคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ยังไม่ถึงที่สุด รัฐจึงมีหน้าที่ต้องยื่นอุทธรณ์ใน 30 วัน

ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้ว พร้อมย้ำ ว่า เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดก็ต้องว่ากันไปเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนกรณีที่ยึดทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว มีการขายทอดตลาด และภายหลังมีคำสั่งของศาลออกมาในลักษณะแบบนี้ นายวิษณุ ระบุว่า คดียังไม่ถึงที่สุด ก็ต้องหยุดเอาไว้เท่านั้น วันหลังชนะแล้วจะมาเอาคืนไปก็คงไม่ได้ เพียงแต่หยุดไว้เท่านั้น ยืนยันไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมา เช่น ที่บ้านโยธินพัฒนา ยึดทรัพย์ไป ก็ยังไม่ทำอะไร จึงสั่งหยุดไว้ทั้งหมด และดำเนินคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุดต่อไป

ทั้งนี้ นายวิษณุ ระบุว่า รัฐบาลจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ต้องปล่อยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากเป็นเจ้าทุกข์ โดยมีอัยการช่วยดำเนินการ

ส่วนคำสั่งของศาลดังกล่าวจะส่งผลต่อคำสั่งของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ตนไม่ทราบ เพราะเริ่มต้นศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา ว่า มีความผิด ถือเป็นการละเว้น โดยต่อมา ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งมาว่าให้ดำเนินการยึดทรัพย์ และเมื่อยึดทรัพย์ ผู้เสียหายก็มายื่นถอนการยึดทรัพย์

ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัย ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นเพียงประธาน คนอื่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นเป็นผู้ผิด ซึ่งตนก็ยังไม่เห็นคำพิพากษาดังกล่าว มีแต่เพียงคนสรุปมาให้ตนทราบ แต่มีความย้อนแย้งกับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ส่วนจะใช้คำพิพากษา ดังกล่าวในการต่อสู้ได้หรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ขณะนี้คงยังไม่ทำอะไร จนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด ส่วนน่าวิตกหรือไม่ในการต่อสู้ชั้นต่อไป ตนมองว่าหากแพ้คดีก็น่าวิตก แต่ไม่ได้วิตกอะไรมาก เนื่องจากต้องดำเนินการต่อไป แต่ไม่สามารถนำคำพิพากษาดังกล่าวมากล่าวอ้างได้ ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ นั้นไม่ผิดคดีอะไรเลย เพราะว่าคำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้วินิจฉัยไว้ว่าผิดนั้นยังคงอยู่

ส่วนคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กับศาลปกครองนั้น มีคำวินิจฉัยความเห็นแย้งกันจะมีผลอะไรหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ตนไม่ทราบ พร้อมอธิบาย ว่า การยึดทรัพย์เริ่มต้นตั้งแต่ศาลฎีกาวินิจฉัย ว่ามีความผิด ป.ป.ช. จึงเห็นว่าจึงต้องดำเนินการยึดทรัพย์ เมื่อยึดทรัพย์แล้ว ศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่าไม่มีความผิด ก็สามารถอุธรณ์ขึ้นไปได้ เพราะไม่มีปัญหาอะไร

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube