fbpx
Home
|
ข่าว

“กัณวีร์” แนะไทยคุยรบ.เมียนมา-ฝ่ายต่อต้าน

Featured Image

 

 

“กัณวีร์” แนะไทยคุยรบ.เมียนมา-ฝ่ายต่อต้าน ทำให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยให้ได้ พร้อมเปิดโอกาสภาคประชาสังคมให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมคุ้มครองกับผู้ลี้ภัย

 

 

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา หลังจากเกิดการปะทะกันระหว่าง กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA/KNU, PDF กับทหารเมียนมา ที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 ฝั่งเมียวดี โดยในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ติดตามสถานการณ์ในเมียนมา เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดทฤษฏี “เมียวดีโดมิโน” เกิดขึ้นตลอดแนวชายแดนไทย โดยมีสถานการณ์ที่เมืองเมียวดี เป็นสารตั้งต้น จากเหตุการณ์ที่มีทหารเมียนมากว่า 100 นายที่หนีทัพมาอยู่พรมแดนเมียวดี 2 และทหารเมียนมาต้องการยึดคืนเมืองเมียวดีให้ได้ จากการควบคุมของฝ่ายต่อต้าน เมืองเมียวดีจึงเป็นพื้นที่เดียวที่ยังเป็นการก้ำกึ่งที่มีการควบคุมระหว่าง ฝ่ายต่อต้านหรือรัฐบาลเมียนมา ( Government Control Area ) ทำให้รัฐบาลเมียนมาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เมียวดีคืน และจะลุกลามไปทุกเมืองบริเวณชายแดนที่อยู่ติดกับไทย ที่ถูกฝ่ายต่อต้านยึดไปแล้ว เช่นพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน ชายแดนจ.แม่ฮ่องสอน ด้วย

 

“ผมเคยเสนอให้มีการจัดพื้นที่ไม่มีปฏิบัติการทางทหาร Safety Zone บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เข้าไป 5 กิโลเมตร แต่ตอนนี้ช้าไปแล้ว เพราะไม่มีการพูดคุย และสถานการณ์เปลี่ยน แต่ต้องพูดคุยเรื่อง Safety Zone ให้ได้ เป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้องคาพยพของไทยมาพูดคุยให้ได้ เพราะจะมีผลกระทบมาทางไทย เพราะจะมีผู้ลี้ภัยมายังไทย ไทยต้องคุยกับรัฐบาลเมียนมา SAC และฝ่ายต่อต้าน ให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยให้ได้ครับ”

 

นายกัณวีร์ เสนอให้รัฐบาลไทยเร่งผลักดัน Safety Zone ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะยังจำเป็นและอาจเกิดในพื้นที่อื่นๆบริเวณชายแดนไทยด้วย ส่วนการช่วยเหลือผู้อพยพ รัฐบาลไทยควรเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาสังคมให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่ทางการไทยได้ริเริ่มเรื่องนี้ด้วย ผ่านกลไกศูนย์สั่งการชายแดน ที่ผู้ว่าราชการ จ.ตาก สามารถขอความร่วมมือภาคประชาสังคมในพื้นที่ ที่เชื่อว่าพร้อมสนับสนุนงานด้านมนุษยธรรมในการดูแลผู้ลี้ภัย ที่เชื่อมั่นว่ากำลังทหาร ฝ่ายปกครอง ไม่น่าจะเพียงพอหรือรองรับสถานการณ์ที่ยืดเยื้อได้

 

“สถานการณ์ที่ยืดเยื้อ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยต้องใช้องคาพยพในการผลักดัน Safety Zone และการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม ดึงภาคประชาสังคมมาร่วมทำงานกับภาครัฐ พวกเรามี ISWG-Inter-Sector Working Group ที่พร้อมให้การสนับสนุน โดยเฉพาะการให้ความคุ้มครองกับผู้ลี้ภัย เพราะจะมีปัญหาตามมามากมาย จึงควรเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถเข้ามาช่วยสนับสนุน เชื่อมั่นว่าภาคประชาสังคมก็พร้อมช่วยกันอย่างเต็มที่”

 

นายกัณวีร์ ยังกล่าวถึงปัญหาที่กลุ่มคนจีนและต่างชาติที่อยู่ในคาสิโน และในเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ เคเคปาร์ค ก็จะได้รับผลกระทบจากการสู้รบด้วย รัฐบาลไทยเตรียมการแล้วหรือไม่ กรณีมีคนจีนที่อพยพมาไทยด้วย เพราะคนเหล่านี้เข้าไปในเมียนมาอย่างผิดกฎหมาย ออกจากไทยก็ผิดกฎหมาย และยังเป็นกลุ่มคนที่ไปก่ออาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ถ้าพวกเขาอพยพมาไทยแล้วเข้ามาในไทยจะมีสถานะอย่างไร

 

“ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา ก็กลุ่มหนึ่ง แล้วคนจีนที่หนีเข้ามาเพราะผลกระทบการสู้รบจะทำอย่างไร เพราะออกจากไทยผิดกฎหมาย เข้าเมืองเมียนมาแล้วเข้ามาไทย อพยพมาเพราะสถานการณ์จะต้องอยู่ในสถานะอะไร รัฐบาลไทยต้องเปิดศูนย์คัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์ เปิดศูนย์ NRM ด้วยหรือไม่ เตรียมการเรื่องนี้หรือยัง”

 

นายกัณวีร์ กล่าวด้วยว่า เรื่องเร่งด่วนที่สำคัญ และเป็นชนวนในการปะทะบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาครั้งรุนแรงตั้งแต่คืนวันที่ 19 เม.ย.คือ ทหารเมียนมาที่หนีทัพ ก่อนหน้านี้ทาง KNU ขอให้มอบตัว แต่เมื่อทหารเมียนมาไม่มอบตัว เพราะรอกำลังเสริมของกองทัพเมียนมามากู้สถานการณ์ เมื่อไม่มีคำตอบจึงมีปฏิบัติการทางทหาร ทั้งๆที่สามารถส่งสัญญาณมาทางไทย เชื่อว่าไทยก็พร้อมรับตามหลักการมนุษยธรรม แล้วเข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรอง เพราะไทยต้องยึดหลักไม่ส่งกลับด้วย เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ชายแดนไทย-เมียนมาด้วย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube