คปท.บุกทำเนียบยื่นหนังสือ ทวงถาม นายกฯ ให้มีคำสั่ง นำ “ทักษิณ” กลับเรือนจำ รองเลขาฯออกมารับ ยืนยันจะนำส่งตามขั้นตอนถึงมือแน่นอน
ครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล และ นายนัสเซอร์ ยีหมะ นัดหมายมวลชนจัดชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลนำ นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตกลับไปรับโทษในเรือนจำ สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้ ทางแกนนำ คปท. ประกาศจัดขบวนเดินเท้า มายังหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยเดินผ่านข้ามสะพานชมัยมรุเชษฐ์
โดยจะมาทวงถาม ว่า ตามที่ทางกลุ่มคปท. ได้เคยยื่นหนังสือไป ถึงนายกรัฐมนตรี แล้วแต่ก็ยังไม่มี สิ่งใดเกิดขึ้นเลย โดยจะนำมวลชนเดินเท้ามาทวงถาม การทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ นายนัสเซอร์ เคยเข้าเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐให้เปิดประตูรั้วเหล็กที่กั้นบริเวณสะพานออกหนึ่งช่องทางเพื่อที่จะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือให้กับนายกรัฐมนตรีหรือตัวแทนที่เป็นฝ่ายการเมืองเท่านั้น
จากนั้นทางเจ้าที่ตำรวจได้เปิดประตูรั้วเหล็กออกกลุ่ม คปท. ไปตั้งขบวนเดินแถวเข้า ประชิดตัวทำเนียบ โดยมีกำลังเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมชุมชนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลหนึ่งจำนวนหนึ่งกองร้อยยืนปิดกั้นถนน ไม่ให้ไปชิดกับกลุ่มผู้ชุมนุมพรีมูฟ
โดยมี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขานายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม คปท. โดยรับปากว่าจะนำหนังสือส่งไปตามขั้นตอนของหน่วยงานราชการและรับรองว่าถึงมือท่านนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้ชุมคปท.ได้แจ้งว่าหากยังไม่มีคำตอบในวันอังคารหน้าจะเดินทางกลับมาทวงถามอีกครั้ง หลังจากทางกลุ่มได้ยื่นหนังสือแล้ว ได้เดินทางกลับไปปักหลักชุมนุมต่อที่บริเวณแยกพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล
นายพิชิต ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการล่ารายชื่อ ว่า ขณะนี้ใกล้ครบ 20,000 รายชื่อแล้ว และจะพยายามให้ครบก่อนที่นายทักษิณ จะได้รับการพักโทษ ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ส่วนกลางปักหลักพักค้างคืนที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ จะยังคงดำเนินการต่อเนื่องอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีความชัดเจนจากองค์กรต่างๆ แม้วันนี้จะได้ยื่นหนังสือเพื่อทวงถามนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม และในวันพรุ่งนี้ (7ก.พ.67) จะเดินทางไปยื่นหนังสือทวงถามสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นองค์กรเดียวที่สามารถขึ้นไปบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ได้ แต่ไม่เคยออกมาชี้แจงต่อสังคม
สำหรับหนังสื่อที่ยื่นในวันนี้ระบุว่า ตามที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท. ได้เคยยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน เรื่อง ขอให้สั่งการโดยเร่งด่วน กรณีที่นักโทษชายเด็ดขาด คดีทุจริต คอร์รัปชัน นายทักษิณ ชินวัตร ได้อ้างสิทธิ์การนอนรักษาตัวนอกเรือนจำทั้งที่ไม่มีการตรวจอาการเบื้องต้นจาก คณะแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อนนำตัวส่งออกนอกเรือนจำนั้น
ซึ่งขณะนี้ได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากกรมราชทัณฑ์เมื่อครั้งเกินกำหนดการนอนรักษาตัวนอกเรือนจำ 120 วันว่า การ ที่นายทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ต่อไปนั้น ก็เพื่อเป็นการเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เห็นว่า การเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษนอกเรือนจำที่โรงพยาบาลตำรวจ
สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นการได้รับสิทธ์เกินกว่าผู้ต้องขังอื่นๆ รวมทั้งเป็น การทำลายสิทธิ์ของผู้ป่วยอื่นทั่วไป ที่มีความจำเป็นในการต้องใช้เตียงและห้องในการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วย
“นอกจากท่านยังไม่สั่งการ ติดตามในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ต้องบริหารประเทศให้เกิดความยุติธรรมแล้ว ยังปล่อยให้มีการใช้สิทธิ์พิเศษเกิน กว่าผู้ต้องขังอื่นจะได้รับคือการนอนเฝ้าระวังนอกเรือนจำโดยไม่มีเหตุจำเป็น นอกจากจะเป็นการทำลา กระบวนการยุติธรรมแล้วยังมีสิ่งที่ตามมาคืองบประมาณที่ใช้ในการเฝ้าระวังดังกล่าวจะเป็นการใช้งบโดยไม่มีความจำเป็น โดยขอเรียกร้องดังนี้ต่อไปนี้
1.ขอให้ท่านเร่งดำเนินการ สั่งการ ให้นำตัวผู้ต้องขังเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขังคดี ทุจริต คอร์รัปชั่น กลับเข้าเรือนจำพิเศษตามคำพิพากษาของศาล หรือหากจำเป็นต้องเฝ้าอาการเป็นกรณีพิเศษก็สามารถเฝ้าวังได้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีศักยภาพเพียงพอในการเฝ้าระวัง ติดตามอาการได้เช่นกัน การสั่งกาเรียกร้องดังกล่าวจะเป็นการดำรง รักษาไว้ซึ่ง หลักนิติรัฐ นิติธรรม ของประเทศต่อไป
2.ขอให้ท่านดำเนินการสั่งการ ให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณในการใช้จ่ายเพื่อดูแล รักษาผู้ต้องขังเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร ว่าเหมาะสมหรือไม่ หรือเป็นการสิ้นเปลืองบประมาณทางราชการในการดูแล นักโทษเพียงคนเดียวโดยไม่จำเป็น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
