fbpx
Home
|
ข่าว

“ปานปรีย์” อียูห่วง “เมียนมา” หวังให้กลับมาเป็นปชต.

Featured Image
“ปานปรีย์” วงประชุมอียูห่วง “เมียนมา” หวังให้กลับมาเป็นประชาธิปไตยอีกครั้ง ย้ำไทยมีโครงการมนุษยธรรมชายแดน รับ “วีซาเชงเก้น” ยังต้องมีกระบวนการ-ใช้เวลา แม้ตัวแทนคุยทวิภาคีไม่ได้มีการปฏิเสธ

 

 

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สรุปการประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก (EU Indo-Pacific Ministerial Forum-IPMF) ครั้งที่ 3 และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) (ASEAN-EU Ministerial Meeting-AEMM) ครั้งที่ 24 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

 

โดยนายปานปรีย์ กล่าวว่า ตนได้มาร่วมการประชุม 2 เวที ซึ่งมีความสำคัญมาก สำหรับอียูก็เป็นกลุ่มประเทศที่มีความสำคัญ ไม่ใช่แค่เฉพาะการค้าการลงทุนกับไทย แต่ยังมีความสำคัญในเรื่องความมั่นคง รวมถึงเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ดิจิทัลเทคโนโลยี การศึกษา วัฒนธรรม ซึ่งในการประชุม โดยเฉพาะในส่วนของเวทีอินโด-แปซิฟิก ก็ได้มีการพูดถึงแทบจะทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ความมั่นคง สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนผ่านไปถึงดิจิทัล ก็ยังมีการพูดถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก

 

โดยเฉพาะการเน้นที่ภูมิรัฐศาสตร์ว่าเวลานี้เกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลายประเทศก็พูดในทำนองเดียวกัน ว่าสิ่งที่เขามีความเป็นกังวล คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอิสราเอลและกาซาในตะวันออกกลาง อีกส่วนก็เป็นส่วนของยูเครนและรัสเซีย โดยเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่เห็นอนาคตว่าจะจบลงอย่างไร ซึ่งทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องที่ดูเหมือนอียูจะให้ความสำคัญมาก

 

ทั้งนี้ ในส่วนของภูมิภาคอาเซียน เขาก็ไม่ได้พูดถึงประเทศอื่น นอกจากเมียนมานะครับ ประเทศเมียนมาก็เป็นประเทศที่ขณะนี้ก็เป็นที่ทราบกันดี ว่าหลังจากการเกิดปฏิวัติภายใน ก็มีความไม่สงบเกิดขึ้น ปัจจุบันนี้ก็มีการสู้รบในประเทศเยอะมาก ทางกลุ่มอียูและอาเซียนก็แสดงความเป็นห่วงว่าประเทศเมียนมาว่าจะมีพัฒนาการอย่างไรต่อไป

 

ทั้งอียูและอาเซียนก็มีการพูดกันว่ามีความเป็นห่วงประเทศเมียนมา และเห็นด้วยกับแนวทางที่ทางประเทศไทยได้นำเสนอ เรื่องการทำให้เกิด Humanitarian Assistance ในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมา
ส่วนโครงการมนุษยธรรมที่ประเทศไทยริเริ่ม อียูสนใจขนาดไหน นายปานปรีย์ กล่าวว่า เขาสนใจมาก ไม่เพียงพูดถึงเรื่องเมียนมาอย่างเดียว เขายังพูดถึงกาซาด้วย ในกาซา เขามีความเป็นห่วงมากว่าเวลานี้ประชาชนก็ได้รับผลกระทบมาก พวกยา พวกอาหารก็ยังไปไม่ถึงประชาชน

 

โอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับหลังจากการประชุมครั้งนี้ นายปานปรีย์ กล่าวว่า มีการพูดกันเรื่อง FTA ซึ่งในอียู หลายประเทศก็พูดกันถึงเรื่อง FTA กับทางอาเซียน ซึ่งประเทศไทยถูกพูดถึงหลายครั้ง เขาก็เห็นด้วยที่ว่าควรจะมีการเจรจาเรื่อง FTA ให้จบโดยเร็ว ซึ่งตนก็คิดว่ามันเป็นทิศทางที่ดีขึ้นในมุมของการมองจากอียู เข้ามาสู่ประเทศอาเซียน ว่าควรจะเร่งรัดในเรื่องนี้

 

สำหรับวีซาเชงเก้นเข้าประเทศเบลเยี่ยม ที่มีการพูดหารือในการประชุมวงเล็กตลอด ความเป็นไปได้จะเป็นอย่างไร นายปานปรีย์ กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสทวิภาคีกับ 2-3 ประเทศ เช่น ฮังการี เนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่พูดคุยมาพบว่ามีการสนับสนุนในการที่จะให้ประเทศไทยได้มีวีซาฟรี

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube