Home
|
ข่าว

กรรมการแก้ไขหนี้ชี้หักหนี้ แล้วต้องเหลือเงินเดือน 30%

Featured Image
กรรมการแก้ไขหนี้ เผย ต้องหักหนี้แล้วต้องเหลือเงินเดือน 30% “กิตติรัตน์” เผย อาจเห็นดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 15%

 

 

 

 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ แถลงผลการประชุมฯ ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เรื่องนี้ถือเป็นวาระที่สำคัญ

 

 

 

 

โดยมีการนำเอาหนี้นอกระบบไปอยู่ในท้ายพระราชบัญญัติคดี ทำให้การปล่อยกู้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดคือ ร้อยละ 15 ต่อปี และไม่มีกฎหมายกำหนด ส่วนที่จะเป็นคดีพิเศษเครือข่ายหนี้นอกระบบ เช่น เราตีว่า 30 ล้าน หรือ 50 คนขึ้นไป ที่ปล่อยกู้ โดยเมื่อตรวจสอบกับกรมบังคับคดีก็จะพบกับกรณีนี้ ซึ่งพบว่ามีเป็นหมื่นๆคน วันนี้จึงสั่งให้

 

 

 

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาเป็นผอ.การแก้ปัญหาลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นท้ายหนี้นอกระบบที่มีสำนักเข้าไปดูแล โดยดีเอสไอจะทำร่วมกับตำรวจ ซึ่งจะใช้วิธีเข้าไปสอบสวน สืบสวนเครือข่าย ซึ่งจะทำให้บรรเทาเรื่องหนี้นอกระบบ

 

 

 

สำหรับในส่วนของกรมบังคับคดี สิ่งที่น่าเป็นห่วงในวันนี้คือ หนี้ที่มีคำพิพากษาทางแพ่งเมื่อส่งไปที่กรมบังคับคดี ทั้งที่ตั้งเรื่องและไม่ได้ตั้งเรื่องรวมแล้ว 16 ล้านล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ มีหนี้ของสถาบันการเงินเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนี้อีกก้อนหนึ่งที่เป็นก้อนใหญ่คือหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ซึ่งหลังจากที่แก้กฎหมายไปแล้ว โดยหลังจากวันที่ 20 มีนาคม 2566 กฎหมายเก่าถูกยกเลิก ทางกยศ. ต้องไปคิดหนี้ใหม่ คือ ให้มีการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 1.50

 

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนำมาเป็นคดีพิเศษแล้วจะมีโทษอย่างไรบ้าง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จะมีมีโทษอั้งยี่ด้วย โดยจะมีการยึดทรัพย์ เมื่อถามว่า16ล้านล้านบาทนั้น เป็นมูลหนี้ปัจจุบันใช่หรือไม่ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นมูลหนี้ที่อยู่กรมบังคับคดี ซึ่งต้องบังคับคดีไปตามกฎหมาย ที่จะต้องให้ความเป็นธรรม เป็นการไปช่วยบรรเทา

 

 

 

 

“หนี้ข้าราชการ ถือเป็นหนี้ที่น่าสงสารที่สุด เพราะถ้าถูกฟ้องล้มละลายก็ต้องถูกออกจากราชการ ถือเป็นมะเร็งร้าย ที่เราจะต้องมีวิธีคิดดอกเบี้ยใหม่ ส่วนหนี้บัตรเครดิตที่ต้องกำหนดดอกเบี้ย 18%นั้น เป็นเรื่องที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้ามากำหนดเพดานและเข้ามาคุม เราต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงเรื่องอายุความ ก็จะทำให้ เป็นการช่วยเหลือประชาชน ไม่ต้องถูกยึดบ้าน ประชาชนก็ไม่แพ้คดี”

 

 

 

 

 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาหนี้ของข้าราชการพบว่า การหักเงินเดือนและการชำระหนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบบสินเชื่อสวัสดิการ ทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนไม่ถึง ร้อยละ 30 ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้จึงพิจารณาร่วมกันว่าจะทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 ของเงินเดือน สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินข้าราชการ จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สามารถให้ข้าราชการปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าบางรายไม่สามารถทำให้เงินเหลือมากกว่า ร้อยละ 30 ของเงินเดือนได้

 

 

 

 

 

จะใช้วิธีการขยายงวดชำระเงินต้นออกไปให้อายุถึง 75 ปี จะส่งผลให้เงินต้นลดลงโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ จะหาเงินกู้พิเศษจากสหกรณ์ออมทรัพย์ของตัวเองในอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม และหากสมมุติว่ายังเหลือเงินไม่ถึง ร้อยละ 30 อีก ซึ่งเชื่อว่าจะเหลือแค่บางรายเท่านั้น เราจะนำมาวิเคราะห์และแก้ไขเฉพาะราย เพื่อให้เกิดการปลดหนี้ให้มีสภาพชีวิตที่อยู่ด้วย โดยจะเดินหน้าและเกิดผลสัมฤทธิ์ในเดือน ม.ค.67 เป็นต้นไป แต่ต้องขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลาง และต้นสังกัดของข้าราชการ

 

 

 

 

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย กล่าวถึงภาพรวมหนี้ของข้าราชการทั้งระบบว่า ข้าราชการที่อยู่ในระบบเงินกู้สหกรณ์มียอดรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่กระทรวงศึกษาธิการประมาณ 8 แสนคน กระทรวงสาธารณสุข 2 แสนกว่าคน ตำรวจ 2.3 แสนคน สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินของข้าราชการนั้น เราจะดูแลข้าราชการในระบบสวัสดิการและรัฐบาลจะดูแลเรื่องการหักเงินเดือนให้ทุกหน่วย

 

 

 

 

เมื่อถามถึงการแก้ไขหนี้บัตรเครดิตที่มีเก็บดอกเบี้ย ร้อยละ15 ต่อปี ขณะที่นายกรัฐมนตรีระบุในการแถลงข่าวแก้หนี้นอกระบบให้เก็บดอกเบี้ยในอัตราที่ไม่เกิน ร้อยละ 15 ต่อปี ทางคณะกรรมการฯจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เรื่องบัตรเครดิตอัตราดอกเบี้ยตามข้อตกลงเดิมบวกกับเบี้ยปรับในรายการผิดนัดชำระ

 

 

 

 

ตรงนี้มีการอ้างอิงประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ทำได้ไม่เกินร้อยละ 3 ฉะนั้น การประชุมแก้ไขหนี้ในส่วนที่เหลือ จะมีแนวทาง ตอนนี้ขอพิจารณาให้รอบคอบเพื่อให้พร้อมที่จะเสนอนายกฯ เพื่อแถลงในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เมื่อถามย้ำว่า มีแนวโน้มที่จะเก็บดอกเบี้ยบัตรเครดิต ร้อยละ 15 หรือไม่ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ก็มีแนวโน้ม

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube