สนค. เผย อินเดีย เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ผู้ประกอบการควรศึกษากฎระเบียบและมาตรการ ก่อนตัดสินใจทำการค้าและการลงทุน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. เปิดเผยว่า สนค.ได้จัดสัมมนา “อินเดีย ผู้ขับเคลื่อนห่วงโซ่การผลิตโลกในศตวรรษถัดไป และโอกาสเจาะตลาดอินเดียของผู้ประกอบการไทย” โดยพบว่าอินเดียถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในด้านเศรษฐกิจ ทั้งจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน วัยแรงงานที่ยังคงมีสัดส่วนที่สูงทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
อีกทั้งในมิติการเมืองโลกยังเป็นประเทศที่น่าจับตามองและกำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญบนเวทีโลก หลังเกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยอินเดียสามารถมีความสัมพันธ์ที่ดีได้กับหลายขั้วมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐฯ จีน รัสเซีย สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม
โดยอินเดียให้ความสำคัญกับการเจรจาการค้าภาคบริการ เช่น ท่องเที่ยว สุขภาพ การบัญชี และประเด็นด้านการลงทุน เนื่องจากอินเดียได้ให้ความสำคัญกับนโยบาย Make in India ที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับอุตสาหกรรมภายในประเทศ นโยบาย Smart City รวมถึงนโยบายการพึ่งพาตนเองมากขึ้นหลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี การเจรจาการค้ากับอินเดียยังคงเป็นสิ่งท้าทายเช่นเดิมจากความเข้มข้นของมาตรการทางการค้า และกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ยังเข้มงวดและมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่ใช้มาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษีค่อนข้างมาก
ขณะที่ความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-อินเดีย ปัจจุบันสองประเทศมีความตกลงทางการค้าเสรีอยู่ 2 ฉบับ คือ FTA ไทย-อินเดีย และ FTA อาเซียน-อินเดีย และในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน FTA อาเซียน-อินเดีย ให้ครอบคลุมในประเด็นที่กว้างขวางขึ้น
ในขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคในอินเดียมีความหลากหลายในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นการทำการค้ากับอินเดียจึงควรยึดหลักการ Indian Centric และผู้ประกอบการไทยต้องทำการบ้านศึกษาข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคให้มาก ส่วนผู้ที่ต้องการจะเข้าไปลงทุนธุรกิจในอินเดียแนะนำให้ลงทุนในแหล่งที่ใกล้กับแรงงาน เนื่องจากขณะนี้อินเดียก็ประสบกับปัญหาขาดแคลนแรงงานที่กลับบ้านในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ
ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่มาจากทางตะวันออกของประเทศ ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลได้สนับสนุนมุ่งเน้นให้ชาวต่างชาติเข้าไปลงทุน เพื่อตั้งฐานการผลิตมากกว่า ดังนั้นการเข้าไปลงทุนในอินเดียเพื่อขยายตลาดจึงมีความคุ้มค่า แต่ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะอินเดียยังมีกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม อินเดียถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีกฎระเบียบที่เข้มงวดและมีการใช้มาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Measures) อยู่มากเช่นกัน ผู้ประกอบการไทยจึงต้องคอยติดตามมาตรการต่าง ๆ ที่ทางการอินเดียประกาศออกมาอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อหาทางปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด ประกอบกับควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น เพื่อให้ได้รับโอกาสจากการค้าและการลงทุนได้เต็มที่ และให้การทำธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews