fbpx
Home
|
ข่าว

ผบ.ทร.อำลาตำแหน่งเตรียมสรุปซื้อเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีน

Featured Image
ผบ.ทร.อำลาตำแหน่ง ฝากยึดเอกลักษณ์รักษา ความรักความสามัคคี ความโปร่งใสในการทำงาน เตรียมสรุปข้อมูลจัดซื้อเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีนให้ รมว.กลาโหมพิจารณาสัปดาห์หน้า ก่อนหมดหน้าที่

 

 

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เยี่ยมอำลากองทัพเรือ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ที่อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือ ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรณ์เกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

 

 

จากนั้นตรวจแถวกองทหารเกียรติยศและ กล่าวให้โอวาทอำลากำลังพล ว่า ความสำเร็จ ตลอดชีวิตราชการที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือมาจากความร่วมมือจากทุกส่วนพร้อมให้รักษา เอกลักษณ์ ความเป็นทหารเรือ โดยเฉพาะความรักความสามัคคี ความโปร่งใสในการทำงาน ความซื่อสัตย์สุจริตให้อยู่คู่กับกองทัพเรือตลอดไป สมกับบรรพบุรุษที่รักษาไว้ จนถึงวันนี้

 

 

ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 9 ด้านในการพัฒนากองทัพเรือ อาทิการปรับปรุงโครงสร้างอัตรากำลังพล พัฒนาการฝึกให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม ความมั่นคงในปัจจุบัน ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและการใช้กำลังของกองทัพเรือ รวมถึงการปฎิบัติการด้านมนุษยธรรม รวมถึงให้ความสำคัญการวิจัยพัฒนายุทโธปกรณ์ที่สามารถนำไปสู่สายการผลิตใช้งานในกองทัพ

 

 

พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำไทยที่ทำสัญญาจัดซื้อกับประเทศจีนว่า ว่า ในส่วนของเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเรือดำน้ำที่ทางจีนจะต้องเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ประเทศเยอรมันมาใช้ของจีนแทนนั้นตนเองเคยให้สัมภาษณ์ตั้งแต่รับหน้าที่ว่าผู้บัญชาการทหารเรือแล้วว่ากองทัพเรือได้ตรวจสอบข้อเสนอของจีนในช่วงปีที่ผ่านมาแล้วโดยคณะกรรมการพิจารณากองทัพเรือได้มีการตรวจสอบข้อมูลที่จะนำเสนอรวมถึงมีการส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อมูล/ตรวจสอบเครื่องยนต์

 

 

นอกจากนี้กองทัพเรือจีนได้ยื่นข้อเสนอการรับประกันเครื่องยนต์มาอีกด้วยโดยกระบวนการตรวจสอบและกระบวนการรับรองทางจีนได้มีการเสนอมายังกองทัพเรือเรียบร้อยแล้วรวมทั้งได้เสนอข้อพิจารณาในการแก้ไขข้อตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลเพื่อที่จะขยายระยะเวลาในการสร้างเรือดำน้ำออกไปอีกหากมีการแก้ไขข้อตกลง

 

 

ซึ่งข้อมูลทั้งหมดขณะนี้คณะกรรมการบริหารโครงการเรือดำน้ำได้เสนอเรื่องมายังกองทัพเรืออยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเมื่อพิจารณาเสร็จกองทัพเรือจะนำเสนอรัฐบาลว่าแนวทางที่จีนนำเสนอเรื่องการเปลี่ยนเครื่องยนต์ของเยอรมันเป็นจีนกองทัพเรือได้ตรวจสอบ และส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเครื่องยนต์ดังกล่าวแล้ว และมีการรับรองเครื่องยนต์ดังกล่าวจากกองทัพเรือจีน เป็นที่เรียบร้อยและมีการเตรียมแก้ไขข้อตกลง ส่งให้กองทัพเรือพิจารณาเรียบร้อยแล้วทั้งหมด

 

 

โดยภาพรวมทางกองทัพเรือเชื่อมั่นได้ว่าข้อมูลที่ได้รับรวมถึงการตรวจสอบเครื่องยนต์ของจีนที่เป็นเครื่องกำหนดไฟฟ้าของเรือดำน้ำสามารถใช้ทดแทนเครื่องยนต์ของ เยอรมันได้โดยไม่ทำให้มีเสียในเรื่องของความปลอดภัย แต่มีประสิทธิภาพการใช้งานและมีการรับประกันซึ่งทางจีนได้มีการแจ้งการรับประกันเพิ่มเติมจากเดิมข้อตกลงรับประกันชิ้นส่วนของเรือดำน้ำภายหลังส่งมอบระยะเวลา 2 ปี เป็นการสนับสนุนรับประกันเครื่องยนต์ดังกล่าว เป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมอะไหล่และมีเจ้าหน้าที่มาดูแลเครื่องยนต์ที่ประเทศไทยรวมถึงซ่อมบำรุงในช่วง8 ปี โดยระยะเวลาที่จีนให้8 ปีนั้นเป็นระยะเวลาในการอัพเกรดเรือดำน้ำตามช่วงระยะเวลาของเรือดำน้ำซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ จะสรุปเพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

 

พร้อมย้ำว่าความจำเป็นที่จะต้องมีเรือดำน้ำนั้น กองทัพเรือ ยืนยันเป็นไปตามยุทธศาสตร์ และสภาวะแวดล้อมของโลกประเทศรอบบ้านกองทัพเรือยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือดำน้ำในการรักษาสมดุลย์ของความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคอยู่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือดำน้ำอยู่ส่วนการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อโครงการหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐบาลต่อไป

 

 

ส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมที่จะมีการพูดคุยกับเยอรมนีในเรื่องนี้ก่อนนั้น พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า เรื่องนี้กองทัพเรือ ได้เคยเจรจากับทางการเยอรมัน ผ่านทางผู้ช่วยทูตทหารมาแล้วตั้งแต่ทราบปัญหา ซึ่งทางผู้ช่วยทูตทหารเยอรมันของไทยและเอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทยก็ได้แจ้งข้อมูลนี้ว่าทางเยอรมันไม่สามารถขายเครื่องยนตร์เรือดำน้ำตามกฎข้อห้ามการส่งออกในกรณีที่สามารถนำไปใช้เป็นอาวุธสงครามให้กับทางการจีนได้และกองทัพเรือก็ได้ทราบข้อมูลจากกองทัพเรือจีนว่าปัจจุบันทางเยอรมันก็ไม่ส่งออกเครื่องยนต์ดังกล่าวเพื่อติดตั้งเรือดำน้ำที่จีนต่อเองด้วย

 

 

ดังนั้นโดยสรุปแล้วจีนเองต้องผลิตเครื่องยนต์เพื่อใช้กับเรือดำน้ำของตนเองด้วยทั้งในปัจจุบันและในอนาคตซึ่งจีนมีการพัฒนาเรือดำน้ำและต่อเรือดำน้ำอยู่ตลอดดังนั้นในอนาคตจริงก็ต้องใช้เครื่องยนต์ของจีนในการติดตั้งกับเรือดำน้ำ และย้ำว่าข้อมูลนี้ได้มีการแจ้งให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็จะเป็นผู้พิจารณาร่วมกับกองทัพเรือ

 

 

พล.ร.อ.เชิงชาย ยืนยันอีกครั้งว่า ได้ตรวจสอบแล้วเครื่องยนต์ของจีนมีคุณสมบัติและขีดความความสามารถเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ของเยอรมันโดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย ทางด้านยุทธการก็สามารถใช้ ทดแทนกันได้ ซึ่งเรือดำน้ำที่ประเทศปากีสสถานต่อจำนวน 8 ลำปัจจุบันก็มีการเดินหน้าผลิตเครื่องยนต์เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำไปใช้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ระยะเวลาที่กองทัพเรือ จะได้ใช้เรือดำน้ำตามข้อตกลงแล้วหากมีการแก้ไขข้อตกลงจะต้องมีการใช้ระยะเวลาสร้างเรือดำน้ำเพิ่มเติมอีกเกือบ 3 ปีเพราะอยู่ในขั้นตอนของการผลิตเครื่องยนต์ก่อนและมาติดตั้งกับเรือดำน้ำที่มีการต่อไว้แล้วในระดับหนึ่ง

 

 

เบื้องต้นตนเองได้มีการเรียนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบแล้วเบื้องต้นในช่วงที่มาแถลงนโยบายที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งท่าทีของรัฐบาลเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องรอการพิจารณาก่อน ทั้งนี้คณะกรรมการของเรือดำน้ำจะมีการเสนอเรื่องมายังกองทัพเรือแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกองอำนวยการและจะพยามเร่งเรื่องเสนอไปยังกระทรวงกลาโหมพยายามเร่งให้ทันในช่วงที่ตนเองทำหน้าที่ซึ่งก็จะหมดวาระในสัปดาห์หน้า

 

 

เพราะว่าได้เตรียมเรื่องทั้งหมดไว้แล้วที่จะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันจะใช้เครื่องยนต์ของเยอรมันในประเด็นนี้ก็เป็นการพิจารณาของ รัฐบาลว่าจะเดินหน้าต่อเรือดำน้ำของจีนหรือไม่หรือจะเปลี่ยนเป็นโครงการอื่นซึ่งก็เติมไปเริ่มพิจารณารายละเอียดกันใหม่แต่การเริ่มต้นโครงการใหม่ปัญหาคือเรื่องงบประมาณเพราะว่าการจัดหาเรือดำน้ำในลักษณะที่ต้องจัดหาเป็นเพกเกจต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงและอย่าลืมว่าการตั้งโครงการเรือดำน้ำกองทัพเรือเมื่อ 6 ปีที่แล้วตั้งโครงการเรือดำน้ำ 2 ลำมูลค่าโครงการ 36,000 ล้านบาท เป็นเรือดำน้ำมาตรฐานหากปัจจุบันราคาก็น่าจะสูงขึ้นกว่าในอดีต

 

 

ส่วนใหญ่การจัดหาเรือดำน้ำหากจัดหาเรือดำน้ำทั่วๆไปก็ต้องจัดหาอย่างน้อย 2ลำ ดังนั้น ต้องใช้งบประมาณมากกว่า 36,000 ล้านบาท ซึ่งการตั้งงบประมาณขนาดนั้น เกรงว่า กองทัพเรืองบเสริมสร้างอาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเล็กจะเจรจาอย่างไรจะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ที่จะเป็นแนวทางการค้าต่างตอบแทน โดยกองทัพเรือก็เสนอเรื่องตามขั้นตอนและเสนองบประมาณให้รัฐบาลพิจารณา

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube