“นายกฯเศรษฐา” ขอเวลา 1 เดือน แจงที่มางบดิจิทัล 10,000 บาท ยันไม่กู้เพิ่ม ทำได้แน่นอน ให้คะแนนโครงการ 11 เต็ม 10 ย้ำมีนโยบายกระตุ้น ศก.ทั้งระยะสั้น-ยาว ขณะยอมรับอาจเพิ่มงบ 67 แสนล้าน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมหารือร่วมกับปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมในสังกัด ผู้บริหารของกระทรวงว่า ในการหารือวันนี้ (14 ก.ย.) ได้เน้นย้ำให้กระทรวงการคลัง ต้องสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ดังนั้น จึงจะต้องให้ความสำคัญกับวินัยการเงินการคลังด้วย เพื่อให้สามารถชี้แจงประชาชนได้
พร้อมยืนยันว่า จะให้ความสำคัญกับการทำงาน ความเป็นธรรม และการปูนบำเหน็ดข้าราชการ โดยยอมรับเห็นใจข้าราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นความสามารถของข้าราชการ ที่หากมีผลงานที่ดี ก็ควรได้รับการปูนบำเหน็จ ดังนั้น หากมีการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม มีผู้มีอำนาจใช้อิทธิพลใด ๆ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็จะเป็นเกราะกำบังให้ข้าราชการ ทำงานด้วยความสบายใจ มีประสิทธิภาพ และได้รับปูนบำเหน็จตามความเหมาะสม รวมถึงยังมีการพูดคุยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วไป และการเตรียมความพร้อมในนโยบายรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความมั่นคงทางการคลังระยะยาวของประเทศ ที่มีผู้กังวลนโยบายของรัฐบาลอาจจำเป็นต้องมีการกู้เงินเพิ่ม โดยยืนยันว่า นโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท จะไม่มีการกู้เงินแน่นอน และย้ำความจำเป็นในการการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP ของประเทศสูงขึ้น โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เช่น การพักหนี้เกษตร ที่จะต้องควบคู่กับมาตรการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งการพักหนี้ เป็นมาตรการแรกของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกร และหวังว่า ในระยะเวลาอันใกล้ จะมีมาตรการใหม่ ๆ มาช่วยบรรเทาภาระของเกษตรกรอีก เช่นเดียวกับ สถาบันการเงิน และธนาคารของภาครัฐ พี่จะต้องมีส่วนช่วยในการดูแลประชาชน โดยจะต้องไม่กระทบต่อวินัยการเงินและการคลัง
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังย้ำถึงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่า จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และสามารถทำได้ โดยขอเวลาไม่เกิน 1 เดือน ในการชี้แจงแหล่งงบประมาณที่จะนำมาใช้ ซึ่งตนเองไม่อยากชี้แจงแหล่งงบประมาณก่อนว่า จะมาจากแหล่งใด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เนื่องจากยังมีตัวเลือกหลายตัวเลือก โดยจะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด และจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ นำข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นเป๋าตังมาต่อยอด พร้อมให้คะแนนความสำเร็จของนโยบายนี้ล่วงหน้า 11 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
นายเศรษฐา กล่าวถึงการมอบนโยบายให้กับสถาบันการเงินในกำกับดูแลของรัฐว่า แต่ละแห่งเป็นสถาบันที่เข้มแข็งอยู่แล้วทั้งธนาคารออมสิน ธอส. กรุงไทย ธกส. ทำงานได้ดีอยู่แล้วแต่ขอให้ดูแลช่วยประชาชน อย่างไร ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งสิ่งไหนสามารถดำเนินการได้เลย ก็จะกำหนดการก่อน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพิจารณาทบทวนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่า ไม่ได้มีอะไรมาก เป็นการพูดคุย ยอมรับว่ามีการหารือเรื่องการเพิ่มงบประมาณ 100,000 ล้านบาท รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews