fbpx
Home
|
ข่าว

ผบ.ทบ.เผยนายกฯห่วงเมียนมาลักลอบเข้าไทย

Featured Image
ผบ.ทบ. เผย นายกฯห่วงเมียนมาลักลอบเข้าไทยมากขึ้น หวั่น โควิด ระลอก 3 เทียบ “สมุทรสาครโมเดล”

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. ถึงกรณีสถานการณ์การเมืองในพม่าที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการป้องกันโควิด -19 ตามแนวชายแดนของไทย ว่า เป็นความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากสถานการณ์ในเมียนมาอาจมีโอกาสทำให้คนต่างประเทศเมียนมาลักลอบเข้าไทยมากขึ้น เพราะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยมีสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างกันฉีดวัคซีนก็ได้เริ่มดำเนินการและมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในขณะที่ผู้ติดเชื้อภายในประเทศเข้าสู่หลักร้อย ในขณะที่คนที่นอนรักษาตัวอยู่ก็มีอยู่ประมาณ 500 คน ซึ่งถือว่าเราสามารถควบคุมได้ ในขณะที่โรงแรมสถานท่องเที่ยวก็เริ่มคึกคักมาตื่นตัวอีกครั้ง

ซึ่งวันนั้นเราต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ และการที่ตนลงไปในพื้นที่ทัพภาคที่ 3 กองกำลังนเรศวรและพื้นที่กองกำลังสุรสีห์ของ กองทัพภาคที่ 1 เพื่อจะไปตรวจเยี่ยมตามแนวชายแดนเพื่อไปดูว่าหน่วยปฏิบัติงานมีปัญหาติดขัดอะไรหรือไม่เพื่อให้ส่วนกลางสนับสนุน ซึ่งก็ได้ข้อยุติว่าจะมีการเพิ่มกำลังของกองกำลังนเรศวร 1 และเตรียมกำลังสำรองไว้ 4 กองร้อย และให้เตรียมพร้อมตลอด 24 ช.ม. หากมีการลักลอบข้ามประเทศมากขึ้น จะเน้นกองกำลังตามแนวชานแดน ทั้ง กองกำลังผาเมือง กองกำลังสุรสีห์ รวมถึงการเพิ่มเติมเครื่องมือในการสกัดกั้นทั้ง UAV พร้อมคิดว่า คนบางกลุ่ม ในเมียนมาอาจจะมองว่า ประเทศตัวเองมีการสู้รบไม่มีความสงบ แล้วจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตามมา ก่อนลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย หากมาก่อนก็มีสิทธ์ หรือที่เรียกว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก

ในส่วนของประเทศเมียนมาซึ่งมีปัญหาภายใน ก็เป็นเรื่องภายในประเทศ แต่ในส่วนของคนไทยต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสิ่งสำคัญจึงจำเป็นที่จะต้องทุ่มทรัพยากรสกัดกั้น ไม่ให้เกิดการลักลอบเข้าประเทศเพราะกลุ่มคนพวกนี้เอาอะไรมาด้วยก็ไม่รู้ทั้งโรคภัยไข้เจ็บ เราทุกคนไม่อยากให้เกิดการระบาดระลอก 3 หรือรอบใหม่เหมือน จ.สมุทรสาครโมเดล ซึ่งมาจากกลุ่มคนที่เราควบคุมไม่ได้

 

ผบ.ทบ. ย้ำยังไม่คิดตั้งศูนย์พักพิงรองรับผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ แต่เตรียมพื้นที่ไว้รับมือเท่านั้น

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงแนวคิดตั้งศูนย์พักพิงรองรับผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ ว่า สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดนั้น ซึ่งจากการลงพื้นที่ ยังไม่มีอะไรบ่งชี้ แต่เราแค่เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับเหตุการเฉพาะหน้าเท่านั้น ถือเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า ประเมินว่าคนลี้ภัยมีไม่มาก หากเทียบกับกลุ่มที่ฉวยโอกาสอาศัยจังหวะนี้ลอบเข้าประเทศใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ และยังกล่าวว่าไม่ทราบถึงการลี้ภัยจากการสู้รบในเมียนมาในปัจจุบัน ไม่รุนแรงเท่าในอดีต

 

ผบ.ทบ. ยันไม่หยุดทำฮอตไลน์สายตรง พร้อมสั่งการฝ่ายเทคโนโลยีจัดทำแอปพลิเคชั่น S.M.A.R.T SOLDIERS รับเรื่องร้องทุกข์จาก ปชช.

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงเรื่องการร้องทุกข์ที่มีคนสนใจ ที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ได้ทำไว้ คือ ฮอตไลน์สายตรง ซึ่งมีคนสงสัยว่าเมื่อตนมาดำรงตำแหน่ง เรื่องดังกล่าวได้หยุดไป โดยยืนยันว่าไม่ได้หยุด แต่กำลังหาวิธีการใหม่ๆ ให้กำลังพลสามารถเข้าถึงได้ง่าย จึงได้สั่งการให้ฝ่ายเทคโนโลยีกองทัพบก จัดทำแอพพลิเคชัน S.M.A.R.T SOLDIERS หรือระบบรับเรื่องร้องทุกข์และประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านแอพพลิเคชัน ทั้งระบบแอนดรอยด์ และ iOS โดยจะมีเรื่องหลักๆ คือ กำลังพลร้องทุกข์ผู้บังคับบัญชา หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในระเบียบมีอยู่แล้วว่าด้วยวินัยทหารปี 2497 แต่ในนั้นเป็นเพียงเอกสาร แต่ตอนนี้ทำเป็นแอปพลิเคชัน สามารถร้องทุกข์ได้ทั้งวาจาและลายลักษณ์อักษร ซึ่งแม้จะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแต่ทุกอย่างก็ยังต้องทำตามระเบียบวินัยทหาร โดยผู้ที่เข้าใช้จะต้องมีการพิสูจน์ตัวตน มีเอกสารประกอบ ไม่ให้มีการกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสี หรือกล่าวร้องทุกข์เป็นเท็จ ซึ่งขณะนี้ทำสำเร็จแล้วอยู่ในขั้นของการทดลอง โดยให้หน่วยต่างๆแจ้งให้กำลังพลรับทราบ

นอกจากนี้ ในแอปพลิเคชัน ยังสามารถร้องเรียนข้าราชการอื่น หรือปัญหาต่างๆ ได้ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะดูแลในส่วนนี้ สรุปคือสามารถร้องทุกข์ของทหาร และร้องเรียนเรื่องภายนอกได้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุด ผู้ที่ใช้โทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ สามารถโหลดแอปพลิเคชันได้แล้ว

 

ผบ.ทบ. เผยปฏิรูปกองทัพยึดตามเอ็มโอยู พร้อมย้ำนโยบายเปลี่ยนชื่อสนามมวยลุมพินี เป็น “ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก”

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูปกองทัพ ในเรื่องสวัสดิการเชิงพาณิชย์ ว่า สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ , สถานที่พักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก ลานนา จ.เชียงใหม่ และสถานที่พักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก ไชยนารายณ์ จ.เชียงราย ที่เป็นลักษณะสถานที่พักผ่อน ได้ให้ทางเครือดุสิตธานีเข้าไปดำเนินการ โดยยึดตามเอ็มโอยูที่กองทัพบกได้ลงนามกับกรมธนารักษ์ ซึ่งจะต้องจ่ายรายได้ให้กับกรมธนารักษ์ตามที่ลงนามไว้ ส่วนที่ไชยนารายณ์นั้นพึ่งเปิดให้บริการ ยังไม่สามารถคำนวณรายได้ที่ต้องจัดส่งให้กรมธนารักษ์

ส่วนกรณีสนามวยลุมพินี ที่จะเปิดแข่งขันในวันพรุ่งนี้ (13มี.ค.64) นัดแรก พล.อ.ณรงค์พันธ์ ระบุว่า ได้ผ่านการประชุม และตนได้ย้ำนโนบายว่าให้เปลี่ยนเป็น “ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก” แต่จะมีวงเล็บต่อท้ายก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารจะพิจารณาตามระเบียบ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกรมสวัสดิการ ทบ. โดยได้มีการเสนอให้ใช้ชื่อ “มวยไทยลุมพินี”เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ ขณะเดียวกันต้องตามวัตถุประสงค์การส่งเสริมกีฬามวยไทยและรักษาวัฒนธรรมไว้ แต่จะไม่ให้มีการขายตั๋ว ไม่มีกิจกรรมเชิงอมายมุข และใช้วิธีถ่ายทอดสด ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. โดยในอนาคตหลังจบสถานการณ์โควิด จะเปิดทำการขายบัตรให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและให้ชาวต่างชาติเรียนรู้ศิลปมวยไทย แต่จะไม่ขายบัตรให้คนไทย เพื่อเข้ามาเล่นการพนันโดยเด็ดขาด ซึ่งต้องทำประโยชน์ให้กับกำลังพลและนักเรียน นักศึกษา หากมาขอใช้ในการแข่งขันชกมวย ก็ยินดีให้การสนับสนุน รวมถึงอาจมีกีฬาประเภทอื่นเพิ่มเข้ามาให้เป็นศูนย์พัฒนากีฬาของ กองทัพบก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับกำลังพลครอบครัวและบุคคลทั่วไป

ส่วนยังคงมีตำแหน่งนายสนามมวยหรือไม่นั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ระบุว่า ก็ยังต้องมี ในรูปแบบคณะกรรมการชุดหนึ่ง ที่ไม่ใช่เจ้ากรมสวัสดิการกอบทัพบก ซึ่งตำแหน่งต่างๆจะแยกไปตามหน้าที่เพื่อให้ทุกคนทำหน้าที่ได้เต็มที่ เพื่อให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหาร ภายใต้ ผอ.ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ซึ่งแต่ละแห่งจะมีคณะกรรมการคนละชุดกัน

“บิ๊กบี้” ยันปรับย้ายใน สรรพาวุธ ไม่เกี่ยวผลสอบสวนฯ ร้องเรียนทุจริต แค่ย้ายตามวาระ ระบุ “นายกฯ “เห็นด้วย ภาพรวมโผทบ. เสนอปรับย้ายเหมาะสม

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลกลางปีในส่วนของกรมสรรพาวุธทหารบกหลายตำแหน่งอาจเป็นผลจากการร้องเรียนของ “หมู่อาร์ม” ในช่วงที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ว่า ไม่เกี่ยว ในส่วนของเจ้ากรมสรรพาวุธก็ขยับขึ้นรองเสนาธิการทหารบก ตามลำดับชั้น ส่วนตำแหน่งอื่นเช่นรองเจ้ากรมสรรพาวุธนั้นเป็นคนเดิมเกือบทั้งหมด ผู้บัญชาการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.) ก็คนเดิม ที่ไปจากกรมส่งกำลังบำรุง(กบ.ทบ.)ก็อยู่ สพ.ทบ. มาก่อน ก็ลงไปดูเรื่องสรรพาวุธ ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนที่เหมาะสม ไม่มีอะไรผิดแปลก ครั้งนี้ไม่มีอะไรเป็นไปตามวาระ เมื่อถามว่า เป็นเพราะผลสอบสวนออกมาพบว่ามีความผิดด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ตอบว่า “สอบสวนอะไรครับ ยังไม่ทราบเลย”

ทั้งนี้ การสอบสวนก็เป็นเรื่องการสอบสวน ถือเป็นเรื่องภายในกองทัพบก ส่วนการพิจารณาการทำงานก็เป็นเรื่องความเหมาะสม ทุกอย่างเป็นไปตามคณะกรรมการของกองทัพบก และ คณะกรรมการปรับย้ายนายพลของกระทรวงกลาโหม รวมถึง นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมด้วย ซึ่งท่านก็ไม่ได้ถามไถ่อะไร บอกว่าทุกอย่างที่เสนอมาเป็นไปด้วยความเหมาะสมที่จะปฏิบัติงานที่กองทัพบก

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube