“พีระศักดิ์” รับเพื่อไทยสายตรงคุยเพื่อขอเสียงโหวต แต่ไม่พร้อม ขอรอดูหน้าตาพรรค-แคนดิเดตนายกฯ ก่อนตัดสินใจ แนะคำนึงถึงเสียงประชาชน ด้าน “สมชาย”รับมีคนเพื่อไทย ติดต่อมาขอคุย มองไม่เหมาะ เหมือนสมัครองค์กรอิสระแล้วมาวิ่งเต้น
นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา ยอมรับว่า ช่วง 2-3 วันมานี้ มีสส.พรรคเพื่อไทยติดต่อมาหาตนเอง เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป แต่ยังไม่มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกัน เช่นเดียวกับวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส. พรรคเพื่อไทย เพื่อขอเข้ามาพูดคุยกัน ส่วนจะตัดสินใจไปในทิศทางใด ขอรอให้การจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นก่อน และมีการแถลงอย่างเป็นทางการก่อนว่ามีพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้าง มีเสียงเพียงพอหรือไม่ รวมถึงจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี
เนื่องจาก ณ วันนี้ยังไม่เห็นความชัดเจนต่างๆออกมา ทั้งเรื่องพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังอยู่ในช่วงเจรจาพูดคุย ขณะที่ 8 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลเดิมก็ยังมีอยู่ ดังนั้น สถานการณ์จึงยังไม่รู้ว่า เเคนดิเดตนายกฯคนไหน จะถูกเสนอชื่อขึ้นมาในการโหวตครั้งต่อไป อีกทั้ง กำหนดนัดโหวตนายกฯ วันที่ 27 ก.ค. นี้ จะถูกเลื่อนออกไปหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ แต่ประธานรัฐสภาได้บรรจุเข้าเป็นวาระแล้ว หากจะเลื่อนต้องมีเหตุผล ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าเรื่องแบบนี้สมควรต้องให้เวลาเพื่อให้เกิดความรอบคอบ และเท่าที่ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนส่วนใหญ่ต้องการการเปลี่ยนแปลง
ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองไปคุยกับพรรคเพื่อไทยไม่ยินดีร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลนั้น ก็ขอให้เป็นเรื่องของสส. แต่ส่วนตัวอยากให้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนบางส่วนด้วย โดยเฉพาะเสียงที่มาจากการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม นายพีระศักดิ์ ย้ำว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยอยู่แล้วที่ให้สวมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นทุกคนต้องรับผิดชอบในการแสดงความเห็นของตัวเอง
ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ยอมรับด้วยว่า ได้รับการติดต่อจากคนของพรรคเพื่อไทยจริง แต่ตนตอบกลับไปว่า ไม่ต้องมาพบ เนื่องจากเห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีการเชิญพรรคการเมืองอื่นไปพูดคุย หากจะแยกขั้วหรือสลับข้างก็ต้องเอาให้ชัด ถ้ายังไม่ชัดก็ต้องเลื่อนออกไป ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าสว. มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่หากให้มาพลก็จะเหมือนกับ เขามาสมัครองค์กรอิสระแล้วมาวิ่งเต้นกับเรา มันไม่เหมาะสม ซึ่งตอนที่พรรคก้าวไกลจะมาขอพบตนก็ตอบในแบบเดียวกัน
ถ้าพรรคเพื่อไทยยังไม่ชัดเจนว่า จะเอาหรือไม่เอาพรรคก้าวไกล การมาคุยกับ สว. ก็จะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เราไม่ได้ติดที่จะมีหรือไม่มีพรรคก้าวไกล แต่ติดที่นโยบายมาตรา 112 และความมั่นคงแห่งรัฐ การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ที่มีแนวคิดอันตราย รวมถึงการทำประชามติขอแยกตัวเป็นรัฐปัตตานี
ทั้งนี้ เราไม่ได้รังเกียจพรรคก้าวไกล แต่ขอให้เขาเลิกนโยบายไปได้หรือไม่ในบางเรื่อง ถ้าเลือกได้เราก็ยินดี แต่จะให้เราไปโหวตคว่ำก้าวไกล แล้วไปเปลี่ยนสูตร แบบนี้ไม่เอา มันไม่ใช่หน้าที่เรา ตนก็เห็นว่าไปชวนพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ มาคุยกันเยอะแยะไปหมด คุณจะเอายังไงคุณก็ต้องบอกเรา เหมือนผมเป็นแขกไปร่วมงานแต่งงาน คุณจะเอาเจ้าสาวคนไหน ก็ต้องเอาให้เคลียร์
ส่วนพรรคเพื่อไทยมีการติดต่อพูดคุยกับสว.คนอื่นหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เนื่องจากติดประชุมวุฒิสภาแต่เช้า แต่ก็มีคนจากพรรคเพื่อไทยประสานมา แต่ตนคงทำหน้าที่แทนคนอื่นไม่ได้ เหมือนกรณีพรรคก้าวไกลเคยติดต่อมา ขอให้ตนเป็นหัวหน้าคณะเจรจาของ สว. ซึ่งก็ตอบไปว่าตนเป็นหัวหน้าใครไม่ได้ ก็เหมือนกับที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกให้ตนไ ปเจรจากับคนบางคน ตนก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
