“สว.อนุสิษฐ”โยนประธานสภา เลื่อนโหวตนายกฯ ย้ำตัดสินใจโหวต ภายใต้เงื่อนไข รักษาชาติ รักษาอธิปไตย รักษาสถาบัน
นายอนุสิษฐ คุณากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้เป็นกระบวนการของ สส. ซึ่ง สว.นั้นมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่ง สส.เองก็มีบทบาทหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ใน
รัฐธรรมนูญ อย่าไปคิดว่า สส.นั้นเป็นพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรืออย่าไปคิดว่า สว.นั้นมาจากเผด็จการ ขอให้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งสว.เองก็มีหน้าที่
ตัดสินใจ ซึ่งการตัดสินใจสว.นั้น มีรัฐธรรมนูญรองรับอยู่ ว่าจะต้องตัดสินใจภายใต้เงื่อนไข รักษาชาติ รักษาอธิปไตย และรักษาสถาบันหลักของชาติ ที่มีกำหนดไว้อยู่ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งประชาชนได้มอบ
ฉันทามติทำประชามติให้เราเข้ามาผ่านรัฐธรรมนูญ ปี 2560 จึงอยากทำให้ประชาชน เพื่อนร่วมชาติ ไม่ว่าจะเป็นด้อมส้ม กลุ่มส้ม หรือจะเป็นคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง หรือเป็นคนที่ใส่เสื้อทุกๆสี นั่นล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น
บ้านเมืองงจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ไหม มองว่าเป็นเรื่องของความสงบเรียบร้อย เอกภาพและบูรณภาพของสังคมไทย เป็นเรื่องที่สำคัญ
นายอนุสิษฐ กล่าวต่อว่า งในฐานะที่เคยเป็นอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในการทำหน้าที่เหล่านี้ เชื่อว่าเป็นเรื่องของความต้องการของชาติบ้านเมือง และผลประโยชน์ของชาติ เป็นเรื่องที่สำคัญ
ส่วนเรื่องการแสดงออกเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่หากเป็นการแสดงออกที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ เรื่องของการทำความผิดต่อกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหลานที่เป็นเยาวชน เราต้องอบรมกระบวนการ
ที่เป็นประชาธิปไตย ที่มีการเคลื่อนไหว มีเงื่อนไขอะไรบ้าง เช่นการปฏิบัติตามกฎหมาย การเป็นพลเมืองที่ดี ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อนใช้สิทธิเสรีภาพ ต้องไม่ไปกระทบสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ซึ่งเป็นหลักของประชาธิปไตยอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงการเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค.ที่จะถึงนี้ออกไป นายอนุสิษฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของประธานสภาและพรรคที่ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลทาง สว.ไม่มีอำนาจหน้าที่ในส่วนนี้แม้แต่การเสนอและการรับรองบทบาทของสส.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทบาทของสว. เรื่องนี้เป็นเรื่องของสส.โดยตรง
นายอนุสิษฐกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่หากไม่มีพรรคก้าวไกลจะทำให้จัดตั้งรัฐบาลได้ง่ายขึ้น ว่า ก็เป็นข่าวที่ทราบเท่าๆกับทุกคน เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยต้องนำไปพิจารณา
เมื่อถามว่าหากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านและมีมวลชนจำนวนหนึ่งแสดงปฎิกิริยาที่หลังจากพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐจนเกิดความวุ่นวาย นายอนุสิษฐกล่าวว่า ตนเองมีความเข้าใจพลังของประชาชนความเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้นโยบายของพรรคก้าวไกลตามที่พรรคก้าวไกลได้หาเสียงไว้ แต่ตนไม่เชื่อว่าหากไม่มีพรรคก้าวไกลแล้วการเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้น หลายสิ่งหลายอย่างได้สะท้อนสิ่งที่เป็นปัญหาของชาติบ้านเมือง จากหลายมิติโดยเฉพาะจากพรรคก้าวไกลที่กล้ามองและกล้านำเสนอ ซึ่งเป็นประโยชน์แต่ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านประชาชนต้องเข้าใจเพราะประชาธิปไตยมีสองมุม ส่วนนึงหากได้เป็นรัฐบาลก็จะได้เข้าไปบริหารประเทศ แต่หากได้เป็นฝ่ายค้านก็ต้องเข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบการยื่นข้อเสนอความต้องการของรัฐบาลในฐานะเสียงจากประชาชนได้อยู่ดี
เมื่อถามถึงความกังวลถึงมวลชนหากพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล นายอนุสิษฐระบุว่า ส่วนตัวแล้วมีความกังวลในเรื่องเหล่านั้นแน่นอนสำหรับบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองโดยเฉพาะราชกาล เพราะการเคลื่อนไหวของมวลชน เป็นการเคลื่อนไหวของลูกหลานเรา เยาวชนเราพี่น้องเราเพื่อนร่วมชาติเรา ดังนั้นการเคลื่อนไหวเหล่านั้นในระบอบประชาธิปไตย และการไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้แต่อย่าทำให้ชาติบ้านเมืองเกิดวิกฤตทางสังคมและเกิดความไม่สงบสุข
ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ต้องรับผิดชอบคือผู้หลักผู้ใหญ่ เด็กๆเยาวชน ได้อธิบายและสร้างความเข้าใจ ในกระบวนการทางประชาธิปไตย เพราะกระบวนการที่แท้จริงไม่ใช่การเอาชนะเพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลเท่านั้น ในอดีตเราเคยมีพรรคฝ่ายค้านที่เข้มแข็งและในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ได้เห็นศักยภาพของพรรคก้าวไกลที่ทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็งและประชาชนได้รับประโยชน์มาโดยตลอด ซึ่งสส.หลายคนของพรรคก้าวไกลเป็นบุคคลที่มีศักยภาพเป็นคนรุ่นใหม่ มีเวลามีประสบการณ์ แม้จะน้อย แต่ก็ควรนำประสบการณ์จากอดีตอย่าหลงลืมและละเลยการสร้างชาติของพวกเราทุกคน
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยในสว.อีกครั้งหรือไม่ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ส่วนตัวตอบแทนทุกคนไม่ได้แต่สิ่งที่เห็นในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีความคิดเห็นที่เหมือนกันในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะม.112 บทบาทแบะทิศทาง การปกครองตัวเองในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กฎหมายอาญาระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ประชาชนหลายส่วนยังไม่เข้าใจ ว่าในท้ายที่สุดแล้วเรามีผลได้ผลเสียอย่างไรและประเทศชาติจะมีผลกระทบอะไรบ้าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews