Home
|
ข่าว

สกลธี ประกาศกลางเวมีปราศรัยใหญ่ ประเทศไม่ใช่ของเล่นให้มือใหม่

Featured Image
สกลธี ประกาศกลางเวมีปราศรัยใหญ่ พปชร. ประเทศไม่ใช่ของเล่นให้มือใหม่เข้ามาสร้างความเกลียดชัง หรือเป็นของบางครอบครัว ขอเลือกบิ๊กป้อม พาคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง

 

 

 

วันนี้ (12 พ.ค. 66) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยใหญ่ขอบคุณประชาชนที่ให้การต้อนรับตลอดช่วงเวลาหาเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญที่จะกำหนดทิศทางของประเทศ เหลืออีกเพียง 2 วัน ตนอยากถามว่าประชาชนอยากเห็นประเทศเดินไปทางไหน อยากให้ประชาชนเดินหน้าโดยไม่สดุดหยุดลง ตนในชาจิรีกใครกลมเกลียวกัน หรืออยากเห็นประชาชนแตกแยก คนรุ่นใหม่ไปทาง รุ่นเก่าไปทาง นำสถานบันมาพูดคุยสนุกปาก รวมถึงอยากให้การออกมาชุมนุมริมถนนทุกวัน ติดหล่มความเกลียดชังเหมือนกับที่ผ่านมา

 

 

ทั้งนี้นายสกลธี ย้ำว่า การก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ได้หมายถึงการจับมือกับทุกพรรคการเมืองแต่เป็นการทำให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายจับมือ อยู่ร่วมการได้ และรับฟังเสียวข้างนอก แต่เรื่องสำคัญที่จะไม่มีทางก้าวข้ามได้ คือ 3 สถาบันหลัก พรรคการเมืองที่ไม่ยอมรับ 3 สถานบันนี้ ซึ่งเป็นจุดยืนหลักของพรรค ต้องยอมขัดแย้ง

 

 

พรรคพลังประชารัฐมีพลเอกประวิตร เป็นศูนย์กลาง รวบรวมมคนหลายฝ่ายมาอยู่ด้วยกะน แม้บางเรื่องจะเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ผ่านใต้การนำของพลเอกประวิตร ทำให้เกิดการประนีประน้อม และอยู่ด้วยกันได้ เชื่อว่าถ้าวันที่ 14 พ.ค. ไว้ใจพรรคพลังประชารัฐจะได้เห็นพลเอกประวิตร ในแบบที่คนในพรรคเห็น ประเทศเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ของเล่นที่จะใครเข้ามาลองบริหารสร้างความเกลียดชังให้คนในชาจิ และไม่ใช่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ้งหมุนเวียนกันเข้ามาบริหาร (นาทีที่20-30) ซึ่งตนมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะกทม. ไม่แพ้ผู้สมัครของพรรคอื่นแน่นอน ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากพวกเขาจ้องแพ้เพราะวลี “ถ้าพรรคนี้เขามาแน่”

 

 

วันนี้ (12 พ.ค. 66) นายวราเทพ รัตนากร คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวในเวทีปราศรัยใหญ่ ว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่หัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้ถ้าพรรคเแนแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พลเอกประวิตร จะต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรี

 

 

ทั้งนี้นายสกลธี ย้ำว่า การก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ได้หมายถึงการจับมือกับทุกพรรคการเมืองแต่เป็นการทำให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายจับมือ อยู่ร่วมการได้ และรับฟังเสียวข้างนอก แต่เรื่องสำคัญที่จะไม่มีทางก้าวข้ามได้ คือ 3 สถาบันหลัก พรรคการเมืองที่ไม่ยอมรับ 3 สถานบันนี้ ซึ่งเป็นจุดยืนหลักของพรรค ต้องยอมขัดแย้ง

 

พรรคพลังประชารัฐมีพลเอกประวิตร เป็นศูนย์กลาง รวบรวมมคนหลายฝ่ายมาอยู่ด้วยกะน แม้บางเรื่องจะเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ผ่านใต้การนำของพลเอกประวิตร ทำให้เกิดการประนีประน้อม และอยู่ด้วยกันได้ เชื่อว่าถ้าวันที่ 14 พ.ค. ไว้ใจพรรคพลังประชารัฐจะได้เห็นพลเอกประวิตร ในแบบที่คนในพรรคเห็น ประเทศเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ของเล่นที่จะใครเข้ามาลองบริหารสร้างความเกลียดชังให้คนในชาจิ และไม่ใช่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ้งหมุนเวียนกันเข้ามาบริหาร (นาทีที่20-30) ซึ่งตนมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะกทม. ไม่แพ้ผู้สมัครของพรรคอื่นแน่นอน ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากพวกเขาจ้องแพ้เพราะวลี “ถ้าพรรคนี้เขามาแน่”

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube