“เศรษฐา” ลั่นต้องเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ไม่ขอเป็นนายกฯ ที่ต้องต่อรองผลประโยชน์กับพรรคร่วมฯ มอง 8 ปีที่ผ่านมาแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง
พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยภายใต้แนวคิด “เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เชียงใหม่เปลี่ยนทันที” ที่ประตูท่าแพ แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย เพื่อสื่อสารความในใจของแคนดิเดตนายก โดยนายเศรษฐา พร้อมคณะเดินทางมาที่เวทีด้วยการนั่งรถแดง พาหนะยอดนิยมของเมืองเชียงใหม่
ซึ่งในช่วงปราศรัยของนายเศรษฐา กิจกรรมเป็นการถามตอบโดย นายณัฐวุฒิ เป็นผู้ดำเนินรายการ เริ่มถามถึงความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายเศรษฐา ย้ำว่ามีความพร้อม ส่วนหากเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นายเศรษฐา ระบุว่า หลายปีที่ผ่านมาเหตุการณ์บ้านเมืองไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สิทธิเสรีภาพ ค่าใช้จ่ายของประชาชนที่สูงขึ้น รายได้ลดลง
นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตนตัดสินใจเข้าสู่ถนนการเมือง กับพรรคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ยืนยันว่า ถ้าหากมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยในอีก 4 ปีข้างหน้า ความยากจนของทุกคนจะหมดไป ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกค่าไฟฟ้าลดทันที ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญมาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ สมรสต้องเท่าเทียม เสรีภาพต้องเกิดขึ้น และคนที่ไม่ได้เป็นทหารต้องไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนชังชาติ เพราะทุกอาชีพก็เป็นคนรักชาติได้
นายเศรษฐา กล่าวต่อ เชื่อว่าประสบการณ์กว่า 30 ปีในแวดวงธุรกิจจะช่วยได้ วันนี้มีความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยประชาชน และไม่ได้มาคนเดียว มาพร้อมทีมงานพรรคเพื่อไทยที่มีคุณภาพ มีนโยบายที่ดี ชนะการเลือกตั้งมาโดยตลอด และพรรคเพื่อไทยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และยังย้ำว่ามีความพร้อม ทุกอย่างพร้อม และยินดีที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยทำงาน ประชาชนสำคัญที่สุด เชื่อว่าเรามีข้าราชการดีๆเยอะ หากเป็นนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่ามีความสามารถโน้มน้าวจิตใจคนดีได้ เพียงเพราะเขาต้องการผู้นำที่มีความสามารถเท่านั้น 14 พ.ค. เข้าคูหากาเพื่อไทยให้ชนะน็อค
นายณัฐวุฒิ ถามต่อถึงคดีความของนายเศรษฐา ก่อนถามว่ากลัวหรือไม่ ก็ได้รับการยืนยันไม่กลัว ถ้ากลัวตนไม่มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะเป็นนักธุรกิจมีเงิน มีทรัพย์สินแบบสบายๆก็ได้ ก่อนเล่าถึงประสบการณ์ที่เคยมีทหารถือปืนข่มขู่สมัยรัฐประหารปี57 คุกคามครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เข้าการเมือง นายเศรษฐา ยังเชื่อว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อีกหนึ่งแคนดิเดตก็ไม่กลัวทหารด้วยเหมือนตนอย่างแน่นอน เพราะนางสาวเเพทองธาร เจอมามากกว่า และ เธอก็เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งอย่างมาก
นายณัฐวุฒิ ยังถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะจับมือกับพรรคอื่นในฝั่งตรงข้ามเช่น พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเศรษฐา กล่าวว่า คำถามนี้ถูกถามมาแต่เเรกๆ ยอมรับตนเองเป็นมือใหม่ทางการเมือง ก็ให้เกียรติทุกพรรคการเมือง แต่ก็มีหลายๆท่านที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งในวงการสื่อ มองว่าทำไมพูดจาไม่ชัดเจน แต่หลังๆ ก็พูดชัดเจนขึ้นจนผู้ใหญ่คนดังกล่าวต้องโทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นถึงพูดชัดเจนและดุดันมากขึ้น ส่วนตัวยืนยันไม่เอาด้วยแน่นอน อย่าว่าแต่ไปจับมือหรืออะไรเลย เราจะต้องเป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาล และต้องยึดโยงกับพรรคการเมืองอื่นที่มีจุดยืนประชาธิปไตย มีนโยบายที่ตรงกันเพื่อประชาชน
8ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร คิดว่าแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง ทั้งเรื่องสิทธิที่ไม่เท่าเทียมกัน 8 ปีที่ผ่านมา ตนว่าพอเเล้ว 14 พ.ค. เราต้องเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ตนอยากจะสร้างความหวังขึ้นอีกครั้ง ต้องกาเพื่อไทยให้ได้เสียงส่วนมากในสภาฯ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อนโยบายที่ดีๆ ที่เคยพูดไว้จะได้ถูกผลักดันให้ทำได้จริง
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะที่โคม่า ซึ่งไม่มีเวลาให้มือใหม่อีกแล้ว การที่เราจะต้องการดูแลกระทรวงหลายๆกระทรวง เพราะเราต้องการผลักดันนโยบายของเรา และเราต้องการให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ยกคะแนนทั้งจังหวัดให้เพื่อไทย300 บวกๆ เพื่อไม่ต้องพึ่ง 250 เสียงส.ว. เราจะยืนได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นแค่ 251 ไม่พอ เราไม่อยากเป็นนายกฯที่ต้องมาต่อรองผลประโยชน์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงกับประเทศครั้งยิ่งใหญ่ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเสมอภาค และส่งต่ออนาคตที่ดีให้กับลูกหลานต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
