fbpx
Home
|
ข่าว

“พิชัย” จี้รัฐต้องลดราคาไฟฟ้า-น้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม

Featured Image
“พิชัย” จี้รัฐต้องเร่งลดราคาไฟฟ้า-น้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม เตือน เศรษฐกิจไทยน่าห่วง ส่งออกติดลบ ขาดดุลการค้าพุ่ง คนไทยหนี้ท่วม แนะเลือกเพื่อไทยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

 

 

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การส่งออกของไทยในเดือนมกราคมติดลบ 4.5% ซึ่งเป็นการส่งออกที่ติดลบติดกันเป็นเดือนที่ 4 อีกทั้งยังทำให้ไทยขาดดุลการค้าถึง 4,649.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขาดดุลสูงที่สุดในรอบ 10 ปีเป็นสัญญาณเศรษฐกิจที่อันตรายมาก เพราะในปีที่แล้ว (ปี65) ประเทศไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกว่า 16,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และปีนี้เริ่มต้นปีก็ยังขาดบัญชีเดินสะพัดอีกในเดือนม.ค.

 

 

อีกทั้งรายได้จากการท่องเที่ยวในเดือนม.ค.66 ก็ลดลงจากเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เพราะมีนักท่องเที่ยวลดลง สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยดูไม่ค่อยสดใสนัก นอกจากนี้พบว่าคนไทยกว่า 25 ล้านคนมีหนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต และสถานการณ์หนี้เสียในระบบธนาคารยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสาเหตุหลักน่าจะมาจากรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย

 

 

โดยล่าสุดรัฐบาลประกาศจะลดราคาค่าไฟฟ้าในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และ ภาคบริการ ต่ำกว่า 5 บาท ตามที่พรรคเพื่อไทย เรียกร้อง แต่อาจจะขึ้นราคาค่าไฟฟ้าในภาคครัวเรือน น่าจะไม่ใช่การดำเนินการที่ถูกต้องเพราะครัวเรือนมีภาระค่าใช้จ่ายที่หนักมากแล้ว ไม่ควรจะขึ้นราคาไฟฟ้าในภาคครัวเรือน แต่ควรเร่งลดราคาค่าไฟฟ้าในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและ ภาคบริการ และน่าจะต้องลดราคาค่าไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนด้วย เนื่องจากราคาต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้ลดลงแล้ว

 

 

โดยราคาก๊าซแอลเอ็นจีที่ราคาลดลงมาต่ำกว่า $20 และ ราคาน้ำมันก็ลดลง อีกทั้งปริมาณก๊าซในอ่าวไทยที่มีราคาถูกและสามารถนำขึ้นมาได้เพิ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นราคาไฟฟ้าก็น่าจะต้องปรับราคาลดลงมาได้แล้ว ทั้งนี้เพราะราคาค่าไฟฟ้าเป็นปัจจัยในการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศที่จะลงทุนในประเทศไทย ซึ่งราคาค่าไฟฟ้าของประเทศไทยแพงกว่าค่าไฟฟ้าของประเทศเวียดนามมาก

 

นอกจากนี้ ประชาชนยังต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม จากราคาค่าก๊าซหุงต้มที่เพิ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 423 บาท/ ถัง 15 กก. ในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา และอาจจะต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็น 438 บาท/ถัง 15 กก. ในอีกไม่นานนี้ ซึ่งจะผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของครัวเรือน แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้ราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นตลอด จากต้นปีที่แล้วที่ราคาก๊าซหุงต้มยังอยู่แค่ 318 บาท/ ถึง 15 กก. โดยไม่ได้มีแนวทางช่วยเหลือหรือแก้ไข อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ลดลงมานานแล้วอยู่ในระดับก่อนเกิดสงครามรัสเซีย ยูเครน (ประมาณ $70-$80 ต่อบาเรล) แต่ราคาน้ำมันดีเซลของประเทศไทยยังสูงมาก อยู่ที่ลิตรละ 33.94 บาท ซึ่งในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การบริหารของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีราคาน้ำมันดิบแพงกว่ามาก ($110 ต่อบาเรล)

 

 

แต่ราคาน้ำมันดีเซลยังต่ำกว่าลิตรละ 30 บาท ดังนั้นรัฐบาลควรต้องลดราคาน้ำมันดีเซลลงได้แล้ว รวมถึงน้ำมันเบนซินด้วย ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังผันผวนและไม่แน่นอน การลดรายจ่ายให้กับประชาชนเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ โดยการลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า และ ก๊าซหุงต้ม ที่เป็นต้นทุนของสินค้าและบริการแทบทุกชนิดจะช่วยลดภาระของประชาชนและลดเงินเฟ้อลงได้ อีกทั้งยังจะต้องมีแนวทางในการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมี นโยบายทุกด้านพร้อมแล้ว และ อยากให้ประชาชนมั่นใจและเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามากันมาก

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube