fbpx
Home
|
ข่าว

“ทิพานัน” กางข้อมูลโรงไฟฟ้าชุมชนโต้ “สุทิน”

Featured Image
“ทิพานัน” กางข้อมูลโรงไฟฟ้าชุมชนโต้ “สุทิน” ยันหุ้นวิสาหกิจชุมชนเพิ่มได้ถึง 40% หนุนโครงการฉลุย หวังบูมเศรษฐกิจฐานราก และความมั่นคงพลังงาน

 

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้นดำเนินการขึ้นมาก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนในชุมชน ประชาชนทุกคนได้มีพลังงานใช้ เกิดประโยชน์แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า มีการใช้วัตถุดิบเชื้อเพลิงชีวมวลซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียน และชุมชนได้ร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืนด้วย

 

ส่วนในกรณีที่ กล่าวว่า มีเรื่องที่ร้องเรียนต่างๆ ในเรื่องโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น ก็ได้สิ้นสุดไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ทำให้ขณะนี้กำลังอยู่ขึ้นตอนดำเนินการลงนามในสัญญาเพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ต่อไปได้

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในส่วนประเด็นที่ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 10 ซึ่งการกำหนดให้มีการถือหุ้นร้อยละ 10 ในเบื้องต้น หากโรงไฟฟ้าชุมชนมีผลประกอบการดีตั้งต้นโรงไฟฟ้าได้ชุมชนสามารถเพิ่มหุ้นได้ถึงร้อยละ 40 เพราะในขั้นตอนแรกของการตั้งโรงไฟฟ้าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุน เช่น ค่าก่อสร้าง ค่าวางระบบ-เทคนิค

 

ยากในการสร้างรายได้คืนทุน หากให้ชุมชนเป็นเจ้าของเต็มสัดส่วนร้อยละ 100 ตามที่นายสุทินเสนอจะเป็นการสร้างภาระให้ต้องใช้เงินจำนวนมาก ยิ่งกลับทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สำเร็จเพราะชุมชนอาจขาดทั้งเงินทุน ความเชี่ยวชาญ หรือข้อมูลทางเทคนิคในการผลิตไฟฟ้า ทางโครงการจึงริเริ่มโครงการแบบค่อยเป็นค่อยไป รัฐบาลต้องการให้โครงการประสบความสำเร็จ ทั้งด้านการผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญต้องการให้ชุมชนได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี มีการพัฒนา มีรายได้จากการขายไฟฟ้าที่ผลิตได้อย่างยั่งยืน

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถร่วมทุนมีเพดานการถือหุ้นสูงสุดได้ถึงร้อยละ 40 ซึ่งการกำหนดให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเริ่มต้นถือหุ้นได้ในร้อยละ 10 นั้นเป็นเพราะในขั้นต้นเป็นโครงการนำร่องที่โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) กำหนดเป้าหมายรับซื้อ 150 เมกะวัตต์ ซึ่งในอนาคตอาจมีกาขยายเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากฝ่ายค้านอภิปรายด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนพร้อมข้อเสนอแนะจากความเป็นจริง ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube