fbpx
Home
|
ข่าว

“กรณ์” เผยไอเดียล้อใบปลิวเงินกู้นอกระบบ

Featured Image
“กรณ์” เผยไอเดียล้อใบปลิวเงินกู้นอกระบบ ประกบนโยบาย “ยกเลิกแบล็กลิสต์” สื่อดอกเบี้ยมหาโหด เตรียมแถลงข่าวจันทร์ 16 ม.ค.นี้

 

 

หลังจากที่พรรคชาติพัฒนากล้า ปล่อยนโยบายเศรษฐกิจชุดแรกออกมา โดยการเสนอยกเลิกแบล็กลิสต์ และให้ปล่อยกู้ด้วยเครดิตสกอร์แทน ตามข่าวที่นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด ได้ออกไอเดียใช้ใบปลิวเงินกู้นอกระบบ แจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อสื่อให้เห็นถึงดอกเบี้ยมหาโหด และแนวทางที่ประชาชนจะเข้าสู่ระบบเงินกู้ในระบบได้ รัฐบาลต้องยกเลิกระบบสินเชื่อโดยใช้เกณฑ์แบล็กลิสต์บูโร และใช้ระบบเครดิตสกอร์จากดาต้าแทน

 

โดยด้านหน้าของใบปลิว จะเป็นข้อความที่เห็นจนชิน คือ เงินกู้ด่วน แต่เพิ่มเนื้อหา สำหรับคนติดแบล็กลิสต์ ส่วนด้านหลังเป็นรายละเอียดนโยบายว่า มีคนไทยติดแบล็กลิสต์กว่า 5.5 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิดมีคนติดเพิ่มขึ้นหลายล้าน บางคนติดเพราะส่งค่างวดช้าไปไม่กี่วัน บางคนใช้หนี้หมดแล้วแต่ก็ยังติดอยู่ ทำให้กู้ในระบบไม่ได้ เพื่อนำเงินมาหมุนหรือต่อยอดในการทำธุรกิจ สร้างความเดือดร้อนให้คนเป็นจำนวนมาก เพราะการกู้นอกระบบอย่างที่รู้กันว่าเจอดอกเบี้ยโหดแค่ไหน เงินที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยทั้งนั้น ยากที่จะลดต้นได้

พรรคชาติพัฒนากล้า จึงเสนอนโยบาย ยกเลิกแบล็กลิสต์แล้วใช้ระบบ Credit Score แทน ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ข้อมูลในการชำระหนี้ประจำวันต่างๆ มาเป็นเกณฑ์ตัดสิน เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ใครมีประวัติดีก็ได้เครดิตดี สามารถกู้ได้มาก ใครเครดิตไม่ดีก็กู้ได้น้อย ซึ่งเป็นระบบที่ทันสมัยและตอบโจทย์มากกว่าการติดแบล็กลิสต์ ซึ่งใครที่ติดแล้วเหมือนตกเหว ยากที่จะขึ้นมาลืมตาอ้าปากได้

 

โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า นี่เป็นนโยบายแรกที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือด้านการเงินให้ประชาชนคนไทย โดยนโยบายจะทยอยออกมาทีละเรื่อง เพื่อให้คนไทยมี งานดี มีเงิน ของไม่แพง ซึ่งเป็นหัวใจของทุกเรื่อง เงินในกระเป๋าเขาต้องมีก่อน เรื่องอื่น ๆ ถึงจะตามมาได้ พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญกับตรงนี้ที่สุด ในทุกกลุ่มของคนไทย

 

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน พ่อค้าแม่ค้า SME หรือแม้แต่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการโอกาสในการสร้างตัว และในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.66) เวลา 10.00 น. ตนจะนำคนที่ติดแบล็กลิสต์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ด้วยว่า การติดแบล็กลิสต์เหมือนตกนรกทั้งเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นการสะท้อนว่าคนอีก 5.5 ล้านคน ต้องตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ถึงเวลาแล้วครับที่ การแก้ปัญหาต้องเปลี่ยนวิธี และรัฐบาลจะต้องกล้าที่จะทำ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube