fbpx
Home
|
ข่าว

สภาเตรียมพิจารณาพรบ.งบฯ 66 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท

Featured Image
สภาเตรียมพิจารณา พรบ.งบฯ 66 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาทวันแรก ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปรายรวม 22 ชั่วโมง

 

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งนัดสมาชิกประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วาระแรก วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท วันแรกจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. เพิ่มขึ้น 85,000 ล้านบาท จากปีงบประมาณ พ.ศ 2565 ที่กำหนดไว้จำนวน 3,100,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 ทั้งนี้ พบว่า กระทรวงที่ได้งบประมาณสูงสุดอันดับแรก คือ กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 325,900.2 ล้านบาท คิดเป็น 10.2 % ของวงเงินงบประมาณ ตามด้วยกระทรวงมหาดไทย จำนวน 325,578.9 ล้านบาทคิดเป็น 10.2 % ของวงเงินงบประมาณ กระทรวงการคลัง จำนวน 285,230.4 ล้านบาท คิดเป็น 9.0 % ของวงเงินงบประมาณ, ทุนหมุนเวียน จำนวน 206,985.6 ล้านบาท คิดเป็น 6.5 %ของวงเงินงบประมาณ และกระทรวงกลาโหม จำนวน 197,292.7 ล้านบาท คิดเป็น 6.2 % ของวงเงินงบประมาณ

 

สำหรับกรอบเวลาการอภิปราย 3 วัน รวม 47 ชั่วโมง 30 นาที แบ่งเป็นเวลาของประธานในที่ประชุม 3 ชั่วโมง 30นาที คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล 22 ชั่วโมง ซึ่งจะรวมเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลักการและเหตุผลรวมถึงรายละเอียดก่อนที่สมาชิกจะอภิปรายด้วย ขณะที่ฝ่ายค้านได้เวลา 22 ชั่วโมงเช่นกัน โดยมติของวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตกลงกันว่า จะใช้เวลาประชุมไม่ต่ำกว่าวันละ 7 ชั่วโมง 30 นาที โดยการประชุมวันนี้จะยาวไปถึงเวลา 01.00 น. จากนั้นวันที่ 1 มิ.ย.จะเริ่มประชุมเวลา 09.00 น.จนถึง 01.00 น. และประชุมต่อในวันที่ 2 มิ.ย.เวลา 09.00 น. ซึ่งคาดว่า จะลงมติภายในเวลา 22.00 น.ของวันที่ 2 มิ.ย.

 

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการพิจารณาตลอด 3 วันว่าจะมีทิศทางอย่างไร หลังจากฝ่ายค้านมีมติคว่ำร่าง ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 แต่จะส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการฯ เพื่อติดตามตรวจสอบ  ขณะที่ฝ่ายค้านก็เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube