fbpx
Home
|
ข่าว

ครม.อนุมัติงบกลาง937ล.ชำระหนี้-ค่าซ่อมอากาศยานสตช.

Featured Image
ครม.อนุมัติงบกลาง 937 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้-ค่าซ่อมบำรุงอากาศยานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรอบวงเงิน 937 ล้านบาท  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าซ่อมบำรุงอากาศยานปีงบประมาณ 2563 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พร้อมอนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ภายในกรอบวงเงิน 937 ล้านบาท

 

ทั้งนี้เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในแผนงานยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ โครงการการบังคับใช้กฎหมายอำนวยความยุติธรรม และบริการประชาชน กิจกรรมการบังคับใช้กฎหมายและบริการประชาชน รายการค่าซ่อมบำรุงอากาศยานจำนวนเงิน 949 ล้านบาท

 

แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบินตำรวจ ได้บริหารสัญญากับบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เกินกว่าวงเงินที่ได้รับจัดสรรจำนวนเงิน 937 ล้านบาท  ซึ่งเป็นการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563

 

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ในเบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบินตำรวจได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อชำระหนี้รายการค่าซ่อมบำรุงอากาศยานปีงบประมาณ 2563 จำนวนเงิน 975 ล้านบาท แต่ได้เจรจาต่อรองภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้บริหารแผนของบริษัทการบินไทยเรียบร้อยแล้ว

 

สรุปยอดเงินที่กองบินตำรวจได้ก่อหนี้ผูกพันไว้เกินกว่าวงเงินงบประมาณ 2563 เงินต้นรวมดอกเบี้ย ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2564 จำนวนเงิน 937 ล้านบาท โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินการชำระหนี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2565  ตามผลการพิจารณาของคณะผู้บริหารแผนโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการเพิ่มขึ้น

 

ทางบริษัทการบินไทยระบุว่า หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติชำระหนี้ตามคำบังคับของศาลรวมจำนวนเงิน 937 ล้านบาท ให้แก่บริษัทจนครบถ้วน ภายในวันที่ 30 เมษายน 2565แล้ว บริษัทจะไม่ติดใจเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชำระหนี้ตามคำบังคับของศาลในส่วนที่เหลืออีกต่อไป

 

 

ทั้งนี้ น.ส.ไตรศุลียังกล่าวเพิ่มอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ2564 ซึ่งได้อนุมัติโครงการศึกษาความปลอดภัย ความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และประสิทธิภาพ ของแคนดิเดตซับยูนิตวัคซีนสำหรับป้องกันโควิด-19 ที่ใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์ระยะ 2a

 

โดยบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรอบวงเงิน 211 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่1 (การแพทย์/สาธารณสุข) ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) กู้เงินเพิ่มเติม พ.ศ. 2564  พร้อมกับมอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัดเร่งดำเนินการจัดทำแผนฉุกเฉิน

 

เพื่อเตรียมการสำหรับรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการทดสอบการฉีดวัคซีนในมนุษย์ภายในเดือนก.ค. 2565 ตามแผนดำเนินโครงการ เพื่อให้สามารถดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณตามโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค. 2565 รวมถึงจดทำแผนเร่งรัดการดำเนินโครงการในระยะที่3 เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นับจากวันที่ ครม. ได้อนุมัติโครงการ

พร้อมกันนี้ ครม. ได้อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5(2) เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 วงเงิน 211 ล้านบาท มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5(1) เพื่อดำเนินโครงการศึกษาความปลอดภัยฯ ของสถาบันวัคซีนและบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด ข้างต้น

ทั้งนี้ หลังจากการอนุมัติปรับปรุงการใช้งบประมาณครั้งนี้ ทำให้วงเงินตาม พ.ร.ก. กู้เงิน เพิ่มเติม พ.ศ. 2564  เหลืออยู่ 74,250 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 500,000 ล้านบาท

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube