“วิโรจน์” ลุยหาเสียงชุมชนมุสลิมพัฒนาบ้านป่า รับฟังปัญหาประชาชน ยันหากได้เป็นผู้ว่า กทม.จะจัดสรรงบประมาณส่วนที่มีปัญหา
บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล พร้อม นายสิทธิ นาคนาวา ผู้สมัคร ส.ก.เขตสวนหลวง หมายเลข 4 ที่มัสยิดนูรุ้ลอิสลาม และ ชุมชนมุสลิมพัฒนาบ้านป่า เพื่อรับฟังปัญหา และการปรับตัวช่วงรอมฎอนกับผู้นำชุมชนที่ได้สะท้อนถึงปัญหาของการจัดสรรงบประมาณในพื้นที่
โดยนายวิโรจน์ ยืนยันหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเข้ามาจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เป็นปัญหา เช่น โครงการลอกคลองในชุมชนว่าตรงตามความต้องการของประชาชนหรือไม่ เนื่องจากงบประมาณลงมาไม่ถึง
จากนั้นนายวิโรจน์ ได้เดินพบปะพี่น้องชาวมุสลิมที่ชุมชนมุสลิมพัฒนาบ้านป่า และได้เจอกับผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย คือ นางสาวปิยะวรรณ จระกา หมายเลข 1 และผู้สมัคร ส.ก.พรรคไทยสร้างไทย คือ นายเอกรินทร์ อยู่บำรุง หมายเลข 8 ที่ได้มาหาเสียงพื้นที่เดียวกัน โดยได้มีการพูดคุยให้กำลังใจกัน ทั้งนี้ ภายหลังนายวิโรจน์ และพรรคเพื่อไทย เดินทางกลับ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย นายศิธา ทิวารี เดินทางมาถึงพร้อมแนะนำตัวหาเสียงร่วมกับผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่นี้ด้วย
นายวิโรจน์ยังกล่าวถึงจุดแข็ง-จุดอ่อน หลังลงพื้นที่มาต่อเนื่อง ว่าจุดแข็งคือ ประชาชนที่เชื่อมกับสิ่งที่ตนเชื่อ ว่าการบริหารเมืองไม่ใช่แค่การบริหาร แต่คือการคืนกติกาที่เป็นธรรมให้กับประชาชนด้วย ถ้าคิดแต่จะบริหารภายใต้กติกาที่ไม่เป็นธรรม ก็จะบริหารงานไม่ได้ ปัญหาก็จะกลับมาเหมือนเดิมเมื่อเปลี่ยนผู้ว่าฯ
ทั้งนี้ตนและพรรคก้าวไกลตั้งใจจะคืน กทม. ที่เป็นอนาคตใหม่ให้ทุกคน ถ้าหากตนได้บริหาร กทม. เมื่อครบวาระ 4 ปี เชื่อว่า กทม. จะต้องเปลี่ยนแปลง ไม่วนซ้ำกับปัญหาเดิม และไม่ว่าผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไปจะเป็นใคร ปัญหาเดิมต้องไม่กลับมา เพราะกติกาถูกแก้ไขแล้ว งบประมาณกระจายสู่ชุมชน และไม่มีผู้ว่าฯ กทม. คนไหนก็จะไม่กล้าริดรอนสวัสดิการของประชาชนอีก
ส่วนการทำคะแนนกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีกระแสชื่นชอบผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หลายคน โดยเฉพาะนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์นั้น ตนยังมั่นใจ และคิดว่าโพลสุดท้ายจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. พร้อมบอกว่าพรรคก้าวไกลก็ทำโพลเช่นเดียวกัน และผลโพลของพรรคก็ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่หลายคนเชื่อกัน ซึ่งจากโพลตนขอพูดสั้นเพียงว่า “ตนยิ้มกว้าง” รวมถึงยืนยันว่าไม่เคยคิดว่าใครเป็นฐานเสียง ไม่คิดว่าใครเป็นเจ้าของประชาชน เน้นทำงานหนักเพื่อนำเสนอนโยบาย และความมุ่งมั่นที่ทำให้ประชาชน ก่อนจะย้ำว่า กทม. จะคิดแค่การบริหารไม่ได้ แต่ต้องคืนกติกาที่เป็นธรรมให้ประชาชนด้วย
พร้อมกันนี้ นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงการหาเสียงว่าจะต้องมีทั้งการลงพื้นที่และการดีเบต เพราะเชื่อว่าการดีเบต คือการเคารพประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
