fbpx
Home
|
ข่าว

ศปฉ.พปชร.ช่วยเหลือปชช.234เคสสู่ระบบรักษา

Featured Image
ศปฉ.พปชร. ช่วยเหลือ ปชช.234 เคส ให้เข้าถึงระบบการรักษา ระดมแจกถุงยังชีพ กทม.-ตจว.ชวนคนไทยฉีดวัคซีนป้องโควิด-19

นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผย ผลการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินสถานการณ์โควิด 19 (ศปฉ.พปชร. )ในช่วงตั้งแต่เริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 25 เมษายน จนถึงวัน 14 พฤษภาคม 2564 ทางศปฉ.พปชร. ได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว ทั้งสิ้น 234 ราย แบ่งเป็นการช่วยเหลือประสานส่งตัวผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษา ณ รพ.รัฐ-เอกชน รพ.สนาม และ Hospitel จำนวน 153 ราย ประสานหน่วยคัดกรองเพื่อตรวจหาเชื้อและติดตามผลตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 54 ราย และประสานให้ความช่วยเหลือกรณีอื่นๆ จำนวน 27 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม. ถึง 182 ราย ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือได้ครบทุกเคสแล้วโดยได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่เข้าไปดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

ขณะเดียวกัน การปฏิบัติการของศูนย์ยังเข้าไปดำเนินเชิงรุกในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่เป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตามนโยบาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคฯ ที่มอบหมายให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการ ศปฉ.พปชร. เข้าไปดำเนินการจัดหาและส่งมอบถุงยังชีพให้กับหัวหน้าภาค และส.ส.ในพื้นที่ไปมอบให้กับประชาชนครอบคลุม ทั้งพื้นที่คลัสเตอร์และชุมชนอื่นๆ โดยเฉพาะในย่านคลองเตย บ่อนไก่ มหานาค สำเพ็ง บางแค และอื่นๆ เป็นต้น ส่วนในต่างจังหวัดได้เข้าไปมอบถุงยังชีพใน คลัสเตอร์ระดับจังหวัด อาทิ จ.นนทบุรี จ.นครราชสีมา

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก รัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนสำหรับประชาชน เข้ารับบริการการฉีดวัคซีน ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” เพื่อป้องกันการติดเชื้อให้กับประชาชน และยังมีการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนที่ภาครัฐจัดหามาให้ โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยที่ผ่านการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นจากชุดข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในขณะนี้ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์อาจทำให้เกิดการบิดเบือน และเข้าใจผิดได้ จึงขอความร่วมมือประชาชนในการติดตาม และคัดกรองข้อมูลข่าวสารต่างๆ อย่างรอบคอบ และมีการตรวจสอบข้อมูลจากภาครัฐเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube