รื้อ สน.สามเสนเป็นไปตามแผน พื้นที่นิ่งไม่ทรุดตัว
เจ้าหน้าที่เริ่มเทหินคลุกแล้ว 175 ลูกบาศก์เมตรหลังเสร็จสิ้นกระบวนการถมทราย พร้อมเร่ง เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของเครื่องใช้ภายในอาคารสน. สามเสนเพื่อรองรับการรื้อถอนโครงสร้าง
วันนี้ (18 ต.ค 68) เจ้าหน้าที่เริ่มกระบวนการเทหินคลุกไปแล้วประมาณ 175 ลูกบาศก์เมตร หลังถมทรายเพื่อปรับระดับพื้นผิวแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยตั้งแต่วันที่ 14-18 ตุลาคม 2568 ได้ถมทรายไปแล้วประมาณ 9,400 ลูกบาศก์เมตร
โดยกระบวนการเทหินคลุกคาดว่าจะใช้หินคลุกทั้งหมดประมาณ 3,500 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน จึงจะดำเนินการแล้วเสร็จ จากนั้นจะใช้แผ่นเหล็กมาปู เพื่ออำนวยความสะดวกให้เครื่องจักรเข้าทำงาน รื้อถอนอาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน คาดว่าจะใช้เวลารื้อถอน 1 สัปดาห์

แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำสิ่งของเครื่องใช้ ภายในตัวอาคาร เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศ โต๊ะทำงาน ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเคลียร์พื้นที่ รองรับการรื้อถอนหลังจากนี้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อุโมงค์รถไฟฟ้าเคลื่อนตัว ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง อาจเกิดจากการสื่อสารคลาดเคลื่อน โดยขณะนี้ไม่มีการเคลื่อนตัวของอุโมงค์รถไฟใต้ดิน รวมทั้งอาคาร สน.สามเสน อาคารแฟลต และพื้นผิวถนนโดยรอบอยู่ในสภาพนิ่ง รอยแตกร้าวของถนนขยับเล็กน้อยไม่มีการขยายตัวเพิ่มเติม
เช่นเดียวกับรอยร้าวบริเวณด้านหลังอาคาร สน.สามเสนที่คงที่ ไม่มีแนวโน้มทรุดตัวเพิ่มเติม ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัด และเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. จึงไม่น่ากังวลในส่วนของการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน ดำเนินไปได้ตามแผนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยทุกขั้นตอน หลังจากคืนผิวจราจรแล้ว จะดำเนินการก่อสร้างอาคาร สน.สามเสนขึ้นใหม่ ที่จุดเดิม ในรูปแบบเดิม
สำหรับการเปิดใช้เส้นทางจราจรบนถนนสามเสน ยังไม่มีแผนที่แน่ชัด เนื่องจากต้องวางแผนร่วมกับการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินคืนกลับด้วย โดยจะพิจารณาความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนเป็นลำดับแรก
เบื้องต้นพบว่าสถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น พื้นดินและโครงสร้างโดยรอบนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนตัวเพิ่มเติม ทรายที่ถมไว้ไม่ยุบตัวเพิ่ม ไม่มีน้ำรั่วซึมเข้าสู่อุโมงค์รถไฟฟ้า และปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง ทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัยที่ผ่านมา
ผู้รับจ้างของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ เกราติง (Grouting) หรือการฉีดซีเมนต์ผสมสารเร่งแข็งตัวรอบอุโมงค์ เพื่อเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้าง ก่อนเดินหน้าฟื้นฟูพื้นผิวถนนอย่างถาวรส่วนแผนการจราจร รฟม. จะหารือร่วมกับสถานีตำรวจพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางเปิดถนนในระยะต่อไป โดยยึดหลัก “ปลอดภัยก่อนเปิดใช้ เป็นสำคัญ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





