นักเคลื่อนไหวดาหน้า จัดหนักหลายคดี “นายกอิ๊งค์” หลาน “อังเคิ้ลฮุน” เซ่นปมคลิปเสียง
นักเคลื่อนไหวภาคประชาชน เดินหน้ายื่นเรื่องร้องเรียน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เรื่องปัญหาแนวชายแดน หลังมีการพูดพาดพิงกล่าวหาแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม แม้นายกจะขอโทษประชาชน แต่คดีความที่จะตามมาคงจะไม่จบง่ายๆ
จากกรณีคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีของไทย กับ “สมเด็จฮุนเซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่มีการต่อสายตรงสนทนากัน ในประเด็นการแก้ปัญหาแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีถ้อยคำพูดพาดพิงไปถึงทหารไทยในทางที่ไม่เหมาะสม จุดกระแสโซเชียลให้ร้อนระอุ รวมถึงประชาชนคนไทยที่ได้ฟังคลิปดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ แสดงออกผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของตนเองในรูปแบบต่างๆ
แม้นายกรัฐมนตรี จะออกมาแถลงขอโทษประชาชน จากกรณีดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่าสังคมจะยังไม่จบง่ายๆ โดยล่าสุด นักเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ ดาหน้ายื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหนักจัดเต็มกับข้อหา ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอย่างเต็มข้อ
เริ่มจาก กลุ่มแรก นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา , นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา และนายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านกฎหมาย ได้เข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดําเนินคดี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 120 ถึง 128 โดยมองว่ามีพฤติกรรมล่อแหลมส่งผลให้ประเทศชาติเสียหาย
โดยนายสมชาย ย้ำว่า คลิปเสียงดังกล่าวมีผลสะท้อนต่อทางการเมืองอย่างแน่นอน จึงอยากเรียกร้องให้นายกมนตรีลาออก และให้คณะรัฐมนตรีลาออกเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีใหม่ แต่ไม่อยากให้มีการยุบสภาเพราะจะทำให้เสียเวลา และที่สำคัญคือไม่เห็นด้วยหากทหารจะทำการรัฐประหาร
ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นหนังสือต่ อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ น.ส.แพทองธาร ว่า มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 วงเล็บ 4 หรือไม่จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนา ดังกล่าว
ทางด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ได้ยื่นหนังสือถึง สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อ ร้องเรียนการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดย มาตรา 4 ระบุ ไว้ชัดเจนว่า “บุคคลใดย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีผู้ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย” และถ้าอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน
สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้ทันที
ส่วนนักเคลื่อนไหวขาประจำอย่าง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นกล่าวหา น.ส.แพทองธาร จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อันเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 มาตรา 120 ประกอบมาตรา 128 อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรโดยชัดแจ้ง เนื่องจากกรณีคลิปสนทนากับ นายฮุนเซน เป็นศัตรูของชาติ ถือเป็นการทำลายเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในแผ่นดิน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของคดีความใหม่ ที่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์กรอิสระ รวมถึงแจ้งความดำเนินคดี กับ นายกรัฐมนตรีของไทย อันเป็นผลพวงมาจากการสนทนา กับ สมเด็จฮุนเซน และนี่ยังไม่นับรวมกับคดีเก่า ที่ไปรออยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบแล้ว อย่างคดีตั๋ว PN หรือ ตั๋วสัญญาการใช้เงิน กรณีการซื้อหุ้นของนายกรัฐมนตรี และคดีการใช้งบผิดประเภท หลังจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ป.ป.ช.รับเรื่องข้อกล่าวหาจัดทำร่าง พ.ร.บ. จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาทมาแจกในโครงการเงินดิจิทัล ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ไว้ตรวจสอบ 2 สำนวน
อย่างไรก็ ตามคงต้องจับตาท่าทีขององค์กรอิสระ รวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่รับเรื่องเพื่อตรวจสอบ ว่าจะเร่งรัดการดำเนินคดีหรือ เร่งรัดการตรวจสอบในเรื่องร้องเรียนดังกล่าวหรือไม่ เพราะถือว่าคดีนี้ เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องของผู้นำประเทศไทยที่ชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews