Home
|
ข่าว

สรุปคลิปเสียง “แพทองธาร – ฮุน เซน” บทสนทนาระดับผู้นำถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ 

Featured Image

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา วงการการเมืองไทย-กัมพูชาร้อนระอุ หลัง คลิปเสียงสนทนา ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ กลายเป็นประเด็นที่สั่นสะเทือนทั้งด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเสถียรภาพในประเทศในตอนนี้

 

จุดเริ่มต้นจากโพสต์ของฮุน เซน

วันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ฮุน เซน โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า เขาได้พูดคุยกับนายกฯ ไทยทางโทรศัพท์เป็นเวลานานถึง 17 นาที 6 วินาที โดยมีล่ามร่วมสายด้วย และยอมรับว่า มีการบันทึกเสียง เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือความเข้าใจผิด

ในช่วงท้ายของโพสต์ดังกล่าว ฮุน เซน กล่าวว่าคลิปที่ทางตนได้ปล่อยออกมา เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น (ราว 9 นาที) และหากฝ่ายไทยต้องการไฟล์เสียงเต็ม เขายินดีจะปล่อยฉบับเต็มให้ ซึ่งคลิปเสียงฉบับเต็มยาว 17 นาที 6 วินาที

 

บทสนทนาภายในคลิป

นายกฯ แพทองธาร เปิดบทสนทนด้วยคำทักทาย จากนั้น เน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะให้สองประเทศอยู่ร่วมกันอย่างสงบ

ในช่วงหนึ่งของบทการสนทนา ทางด้านนายกฯ แพรทองธาร ได้กล่าวว่า “แม่ทัพภาค 2 (พล.ท.บุญสิน พาดกลาง) ” ถือเป็นฝ่ายตรงข้าม และฝากถึงฮุน เซน ว่าไม่ควรเชื่อการสื่อสารจากฝ่ายนั้น

 

พร้อมย้ำอีกว่าสิ่งที่ตนต้องการนั้น คือต้องการความสงบสุขให้เกิดขึ้น เหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดน 

 

อีกช่วงหนึ่ง ในบทสนทนา ทางด้านแพรทองธาร ได้ขอให้ฮุน เซน “เห็นใจหลานหน่อย” พร้อมระบุว่า หากอีกฝ่ายต้องการอะไร “ก็บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้”

จากนั้นทั้งสองเห็นพ้องจะเปิดด่านชายแดนกลับสู่ภาวะปกติ โดยฮุน เซน ระบุว่ากัมพูชา “ถอยและปรับกำลังแล้ว” แต่ยังถูกไทยกดดัน

นอกจากนี้ ทางด้านแพรทองธารยังได้กล่าวถึงกรณีที่ฮุน เซน พูดถึงการตัดน้ำตัดไฟ แพทองธารขอโทษ พร้อมอธิบายว่าเป็นเพียงการชี้แจงขั้นตอน ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ต่อไป ประเทศไทยจะทำอะไรยังไง ไม่ได้เป็นการขู่

 

ในช่วงท้ายๆ ของคลิปเสียง แพทองธารย้ำว่า อยากให้ทั้งสองประเทศออกมาพูดพร้อมกันว่า รัฐบาลได้ตกลงร่วมกันแล้ว ว่าจะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้

 

คำแถลง ของนายกรัฐมนตรีไทย

ภายหลังที่คลิปเสียงถูกเผยแพร่ออกไป ทางด้านนายกฯ แพทองธาร ได้ออกมายอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง แต่ที่ตนพูดไปนั้น พูดเพื่อคลายความตึงเครียด และ ใช้เทคนิคทางการเจรจา เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

 

อย่างไรก็ตามแพรทองธาร ชี้แจงว่าการสนทนาของตนและ ฮุน เซน เป็นการพูดคุยแบบ ส่วนตัว จึงมีคำเรียกขานอย่าง “ลุง-หลาน” และไม่เห็นควรนำออกมาเผยแพร่ พร้อมได้ระบุว่า

 

“อย่างไรก็ตามบทสนทนาแบบนี้ไม่ควรที่จะออกมา เพราะนี่คือระดับผู้นำของประเทศ คือนายกฯ และอดีตนายกฯ ที่เป็นนายกฯ มาตั้งแต่อายุ 32 ปี และเป็นพ่อของนายกฯ คนปัจจุบัน”

 

สำหรับเรื่องเปิดด่าน แพรทองธาร เสนอให้เปิดพร้อมกัน แต่กัมพูชาให้ไทยเปิดก่อน ซึ่งทำให้ไม่มั่นใจและต้องขอปรึกษากระทรวงกลาโหมก่อน ในการประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่บ้านพิษณุโลก เพื่อให้คำตอบในวันรุ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตามระหว่างการประชุมฯ ฮุน เซนกลับโพสต์ขู่ว่าจะ “ปิดด่านทุกจุด” ภายใน 24 ชั่วโมง หากไทยไม่ดำเนินการก่อน ทำให้นายกฯ ของไทย ตั้งข้อสังเกตว่าอีกฝ่าย ต้องการกระแสนิยมในประเทศตัวเอง

 

ในช่วงท้ายๆ ของการแถลงข่าว แพทองธารกล่าวว่า “ดิฉันไม่อยากให้คนไทยหลงกลตรงนี้ เพราะเป็นเทคนิคให้เข้าใจว่าเราทะเลาะกัน แต่จริงๆ แล้ว ประโยชน์แรกที่ดิฉันคือ ต้องการแสดงความเข้าใจเขา ให้เขาบอกความต้องการที่แท้จริงว่า อะไรที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข อะไรทำให้การปะทะมันจบลง”

 

จากกรณีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุน เซน นำไปสู่คำถามสำคัญว่า แท้จริงแล้วนี่คือการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา หรือเป็นการวางหมากทางการเมืองของผู้นำกัมพูชา เพื่อดึงกระแสความนิยมกลับคืนให้กับตนเองหรือไม่

 

แม้ฮุน เซนจะให้เหตุผลว่าการบันทึกเสียงเป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด แต่การนำเนื้อหาส่วนหนึ่งออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยที่อีกฝ่ายยังไม่เห็นชอบ ย่อมก่อให้เกิดข้อกังขาทั้งในเชิงจริยธรรมและความเหมาะสมทางการทูต เพราะโดยธรรมเนียมแล้ว บทสนทนาระหว่างผู้นำประเทศ โดยเฉพาะในลักษณะที่เป็นส่วนตัวและไม่เป็นทางการ มักถือเป็นข้อตกลงโดยนัยว่า “ไม่ควรถูกเปิดเผย”

 

นายกรัฐมนตรีไทยเองก็ออกมายืนยันชัดเจนว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นการสนทนาในลักษณะส่วนตัวระหว่างทั้งสองฝ่ายเท่านั้น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube