สรุปเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน AI171 แอร์อินเดียตกกลางเมือง เสียชีวิตกว่า 260 ราย

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เครื่องบินของสายการบิน แอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI171 ประสบอุบัติเหตุตกกลางย่านชุมชน หลังทะยานขึ้นจากสนามบินในเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เพียงไม่กี่นาที จุดตกอยู่บริเวณหอพักของนักศึกษาแพทย์ ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง และกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางการบินครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ
รายละเอียดของเที่ยวบิน
เครื่องบินที่เกิดเหตุเป็น Boeing 787-8 Dreamliner ออกเดินทางเวลา 13.38 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดหมายปลายทางคือสนามบินแกตวิก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม หลังขึ้นบินได้ไม่นาน เครื่องบินขาดการติดต่อ ขณะอยู่ที่ความสูงประมาณ 625 ฟุต (ราว 190 เมตร) ก่อนพุ่งชนหอพักในย่านชุมชน
ยอดผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิต
ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด: 242 คน
- ชาวอินเดีย: 169 คน
- ชาวอังกฤษ: 53 คน
- ชาวโปรตุเกส: 7 คน
- ชาวแคนาดา: 1 คน
เสียชีวิตบนเครื่องบิน: 241 คน
เสียชีวิตบนภาคพื้นดิน: 24 คน
รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดมากกว่า 260 ราย
มีผู้โดยสารเพียง 1 รายที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ คือ นายราเมช วิสวัชกุมาร์ ชายชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย เขาถูกพบในสภาพบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที โดยเจ้าตัวเล่าว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นศพอยู่รอบตัว จึงพยายามลุกขึ้นและหนีจากซากเครื่องบิน ก่อนจะมีผู้ช่วยเหลือพาไปยังรถพยาบาล
รัฐมนตรีมหาดไทยของอินเดีย อามิต ชาห์ ระบุว่า ความรุนแรงของไฟไหม้เกิดจากน้ำมันในเครื่องบินปริมาณมหาศาลถึง 125,000 ลิตร ทำให้ความร้อนในจุดตกสูงจนยากแก่การช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
ขณะนี้มีการเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบซากเครื่องบินและค้นหากล่องดำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ขณะที่ จอห์น ค็อกซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินให้ความเห็นว่า จุดที่น่าสงสัยเบื้องต้นอาจเกี่ยวข้องกับระบบ Slats และ Flaps ซึ่งอาจไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมขณะเครื่องพยายามไต่ระดับ
ขณะที่ แคมป์เบลล์ วิลสัน CEO ของ แอร์อินเดีย ออกมาแถลงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ พร้อมยืนยันให้ความร่วมมือกับการสอบสวนอย่างเต็มที่
ทางด้าน นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ และไปเยี่ยมผู้รอดชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ทางด้านผู้นำจากหลายประเทศที่มีพลเมืองเสียชีวิตในเหตุการณ์ ต่างแสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews