“ครูใหญ่” (เนวิน)ชนะ ”นายใหญ่” (ทักษิณ)?
แม้ “นายกฯอิ๊งค์” จะบอกว่า จากที่คุยกับ “คุณพ่อ” (ทักษิณ) ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง”แฮปปี้กับผลเลือกตั้ง อบจ.ที่เพิ่งจบลงไปวันที่ 1 ก.พ.เพราะไม่ได้หาเสียงอย่างนี้มา 17-18 ปีแล้ว
แต่จริงๆ เป็นสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วในอดีต แต่เป็นอดีตที่ไกล กลับมาทำแบบนี้ตนยังเป็นห่วงเวลาไปหลายเวทีเพราะอายุเยอะ แต่ก็ทำเต็มที่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงถือว่าคุ้มสตางค์ที่จ่ายที่ได้ แต่ส่วนตัว “นายกอิ๊งค์”บอกว่า ตนพอใจ โดยเฉพาะได้10จาก16จังหวัด ที่ถือว่าดีแม้จะอยากได้ทั้งหมด แต่ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วส่วนจะมีการนำไปวิเคราะห์ถึงการเลือกตั้งสนามใหญ่หรือไม่นั้นมีการวิเคราะห์ในทุกจังหวัดอยู่แล้ว และจะได้มีการพูดคุยในที่ประชุมส.ส. ด้วย
แต่จากภาพที่ปรากฏ กับ 47 จังหวัดในรอบนี้ ส่วนใหญ่ “นักวิเคราะห์การเมือง” ทั้งแวดวงรัฐศาสตร์ และ กูรูการเมือง มองตรงกันว่าเป็น “สัญญาณ” การ “สิ้นมนต์ขลัง” ของ “นายใหญ่ทักษิณ” ที่ไม่สามารถสะกด “ครูใหญ่” เนวิน และ “เสี่ยหนู” แห่งภูมิใจไทย ที่ได้ทีโชว์ภาพ ได้รับมอบ “ปี๊บ” จาก “นายวิชิต” พ่อของ “กวางไตรศุลี ไตรสรณกุล ว่าที่นายกอบจ.ศรีสะเกษ” ได้
แม้จะประกาศชัดเจนในหลายเวทีหาเสียง โดยเฉพาะที่ไปประกาศไว้บนเวทีศรีสะเกา กับแคมเปญ “ไล่หนูตีงูเห่า” ภาค2 ที่ผลออกมา ศรีสะเกษ เพื่อไทยแพ้ ภูมิใจไทย เช่นเดียวกับอีกกับอีก 3 จังหวัดที่ “ทักษิณ” ไปเป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” ให้เพื่อไทยที่แพ้ให้ทั้งภูมิใจไทยและ “พรรคเด็ก-ประชาชน” ไม่ว่าจะเป็น ลำพูน,เชียงราย หรือ บึงกาฬ ส่วนจังหวัดที่ “ทักษิณ” ไปหาเสียงแล้วชนะ ประกอบด้วย เชียงใหม่,ลำปาง,นครพนม,หนองคาย และ มหาสารคาม ในขณะที่ภาพใหญ่ ถูกมองว่าระหว่างเพื่อไทย กับภูมิใจไทยที่แม้ไม่ “เปิดหน้า” ชัดๆ ว่าส่งผู้สมัครในนามพรรค แต่กลับสูสีกินกันไม่ลง ทั้งในรอบเลือกตั้งก่อนวันที่ 1ก.พ. และ ในรอบวันเลือกตั้งอบจ. 1ก.พ.
โดยปรากฏการณ์นี้ นักวิเคราะห์มองในทิศทางเดียวกันอีกว่า นอกจากภาพการเลือกตั้งสนามเล็กที่เปลียนแปลงไปจาก การที่มีพรรคการเมืองลงมาเล่นเต็มตัวแล้ว สะท้อนถึงการเชื่อมโยงระหว่างสนามการเมืองท้องถิ่น กับการเมืองระดับชาติแล้ว ผลที่ออกมาสะท้อนได้ว่า “มนต์ขลัง” ของ “ทักษิณ” ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และพรรคเพื่อไทย อาจจะทำงานลำบากมากขึ้น เพราะศัตรูทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านแต่เป็นกลุ่มค่ายสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับ “เทพไท เสนพงศ์” ที่โพสต์FB มองว่า เครดิตทักษิณ
ต่อฝ่ายอนุรักษนิยม ลดลง แม้ เพื่อไทยจะได้ 10 จังหวัด จากที่ส่ง16 จังหวัดแต่พลาดในหวัดสำคัญที่ถูกจับตา เช่น เชียงราย ลำพูน ศรีสะเกษ จนมีเสียงวิจารณ์ว่า บารมีของ “ทักษิณ” ลดน้อยลง เสื่อมถอยและขาดมนต์ขลังไป โดยผลเลือกตั้งทำให้เห็นว่า เครดิตของ “ทักษิณ” ที่มีต่อฝ่ายอนุรักษนิยม ที่ต้องการให้นายทักษิณเป็นตัวแทนสู้กับพรรคประชาชน และ “ทักษิณ”
ก็ต้องการจะได้ใบอนุญาตเพื่อไปต่อทางการเมือง หวังกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ย่อมถดถอยลง ซึ่งรับรู้ได้จากผลการเลือกตั้งนายกอบจ.ครั้งนี้ นายทักษิณไม่ได้มีบารมีจริง และหมดยุคทักษิณไปแล้ว และ ขอให้จับตาดูว่า หลังจากนี้นายทักษิณจะพลิกเกม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากฝ่ายอนุรักษนิยม ให้ตัวเองได้ใบอนุญาตเข้าสู่อำนาจทางการเมืองได้อย่างไร
ในขณะที่ “เต้น-ณัฐวุฒิ” ไม่มองว่าทักษิณสิ้นมนต์ขลัง โดยมองหากทักษิณไม่มาช่วยหาเสียงตัวเลขอาจไม่ได้ขนาดนี้ และประเมินด้วยว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนไปยังภาพใหญ่ ในฉากทัศน์เดิมที่เคยเสนอไว้ ว่าการเมือง 3 ก๊ก 1.เพื่อไทย 2.พรรคฝ่ายอนุรักษนิยม ที่ชั่วโมงนี้ภูมิใจไทยโดดเด่นกว่ารทสช.หรือปชป. และ 3.พรรคประชาชน จะไม่มีใครได้เสียงเกินครึ่งในการเลือกตั้งปี 70 การตั้งรัฐบาลจะจับมือกันระหว่าง 2 ใน 3 ก๊กนี้ พรรคที่จะตอบยากที่สุดว่าจะจับหรือไม่จับมือกับใครอย่างเด็ดขาด คือพรรคประชาชน
โดยรอบนี้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของคะแนนไม่มอบตัวเป็นของง่ายของใคร ทุกพรรคมีบทเรียนสำคัญให้ต้องสรุป และมีการบ้านข้อใหญ่ให้ต้องแก้ไข ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพื่อจะเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งใหญ่ เพื่อไทยส่ง 16 ได้ 10 จังหวัดไม่คิดว่าจะแพ้ที่เชียงรายกับลำพูน ศรีสะเกษเรารู้ดีว่าไม่ง่าย แต่คิดว่าถ้าชนะก็สูสี หรือหากแพ้คะแนนน่าจะใกล้กันกว่านี้ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ทั้งที่ชนะและไม่ชนะ ล้วนอยู่ในความคาดหมาย ทีมงานทุกส่วนต้องทำงานหนักกันต่อไป.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews