โฟตอน (FOTON) เปิดตัวแผนรีแบรนด์ที่กำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถ ในกรุงปักกิ่ง เพื่อนำเสนอปรัชญาใหม่ประจำแบรนด์โฟตอน และกลยุทธ์ธุรกิจหลัก 5 ประการ พร้อมเผยอัตลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ทะเยอทะยานของบริษัทฯ
ฉาง รุ่ย ประธานกลุ่มบริษัทโฟตอน มอเตอร์ (Foton Motor Group) เน้นย้ำถึงแนวทางที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และกลยุทธ์ทางธุรกิจ 5 ประการที่จะเข้ามากำหนดทิศทางให้กับโฟตอน โดยเน้นที่การเสริมศักยภาพทางเทคโนโลยี โมเดลธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และการดำเนินงานในระดับโลก โฟตอนมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์คาร์บอนคู่ขนาน กลยุทธ์พลังงานใหม่ การสร้างระบบนิเวศดิจิทัล โลกาภิวัตน์ และกลยุทธ์แบรนด์ที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อเร่งสร้างนวัตกรรม และให้รับมือกับความท้าทายและโอกาสต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โฟตอนหวังเร่งการยกระดับนวัตกรรม โดยคว้าโอกาสที่มาพร้อมกับ “กลยุทธ์คาร์บอนคู่ขนาน” ซึ่งทางบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้า คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ โฟตอนตั้งเป้าในการปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดภายในปี 2571 ก่อนจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในโรงงานหลักให้ได้ภายในปี 2578 และห่วงโซ่มูลค่าเป็นกลางทางคาร์บอนได้ทั้งหมดภายในปี 2593
โฟตอนมีเป้าหมายในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานพาหนะพลังงานใหม่ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ตลาดในเมือง กลุ่มเมือง และตลาดโลจิสติกส์ระยะไกล โฟตอนจะมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีไฟฟ้าล้วน เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเทคโนโลยีไฮบริด เพื่อเร่งวางแผนผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานใหม่ โดยตั้งเป้าให้รถยนต์พลังงานใหม่มีอัตราการเข้าถึงแตะ 20% ภายในปี 2568 และ 50% ภายในปี 2573
โฟตอนมุ่งสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ โดยคิดค้นโมเดลการตลาดที่มีความแปลกใหม่ เพื่อขับเคลื่อนตัวแทนจำหน่ายให้เปลี่ยนจากการขายและการบริการแบบเดิม ๆ ไปสู่การดำเนินงานที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะในส่วนของยานพาหนะใช้แล้ว การเช่าเพื่อการดำเนินงาน และการจัดหาพลังงาน
โฟตอนมุ่งมั่นผลักดันกลยุทธ์การพัฒนาระดับโลกอย่างแน่วแน่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เติบโตได้อย่างยืดหยุ่น สร้างรากฐานในตลาดประเทศกำลังพัฒนาให้มั่นคง เร่งวางรูปแบบอุตสาหกรรมระดับชาติ และคว้าโอกาสในการบุกตลาดที่พัฒนาแล้ว
โฟตอนมีความมุ่งมั่นในการเร่งวิวัฒนาการในการเปลี่ยนแปลงพลังงานรูปแบบใหม่ และดำเนินการฟื้นฟูแบรนด์ครั้งที่ 4 พร้อมเผยกลยุทธ์ใหม่ของแบรนด์อย่าง “Easy Move”
ฉาง รุ่ย ประธานบริษัทฯ กล่าวว่า “เราวาดอนาคตที่ผู้คน ยานพาหนะ สินค้า พลังงาน ตัวเลข และมูลค่าสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระทั้งในแง่ของพื้นที่และเวลา โดยมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเสมือนจริงกับสิ่งที่มีอยู่จริงได้อย่างราบรื่น กลยุทธ์นี้สะท้อนแนวทางการพัฒนาและมุ่งสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น”
